ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง ตอนที่ ๘
“แนวคำวินิจฉัยของศาลฎีกาเกี่ยวกับผู้สมัครรับเลือกตั้งกับพรรคการเมือง”
บุคคลซึ่งจะใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๙๗ (๓) ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคการเมืองเดียว... และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔๗ กำหนดให้พรรคการเมืองซึ่งประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใด ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้น
การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งจากผู้ซึ่งได้รับเลือกจากสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้นเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งและมาตรา ๔๘ การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อให้พรรคการเมืองจัดทำบัญชีรายชื่อ เพื่อส่งให้สาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด...
มาตรา ๑๔๕ ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกที่มีขึ้นภายหลังจากวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับหากพรรคการเมืองใดได้จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดไว้แล้วในจังหวัดใด ให้พรรคการเมืองนั้นสามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น
จากบทบัญญัติดังกล่าวกำหนดให้พรรคการเมืองเป็นผู้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและในเขตเลือกตั้งที่ส่งผู้สมัครนั้นต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้น ดังนั้น หากพรรคการเมืองใดไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัดก็ไม่สามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ เช่น
คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ ๙๘๓/๒๕๖๒
พรรค พ. ไม่ดำเนินการแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เนื่องจากข้อบังคับพรรค พ. ให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้เรียกประชุมใหญ่ทุกคราว แต่หนังสือเรียกประชุมใหญ่ เพื่อดำเนินการถอดถอนนาย ส. จากหัวหน้าพรรคและให้พ้นจากสมาชิกภาพ ลงนามโดย นาย ช. รองหัวหน้าพรรค พ. เป็นการประชุมที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ไม่มีผลเป็นการถอดถอนนาย ส. จากหัวหน้าพรรคและไม่พ้นจากสมาชิกภาพ หนังสือที่นาย อ. ลงนามในฐานะหัวหน้าพรรค พ. แจ้งการแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง จึงไม่ได้ลงนามโดยหัวหน้าพรรค พ. หรือโดยผู้ได้รับมอบอำนาจจากหัวหน้าพรรค ถือได้ว่าพรรค พ. ไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด จึงไม่สามารถส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกเขตเลือกตั้ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๔๕
คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ ๑๑๙๘/๒๕๖๒
พรรค ร. ไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดร้อยเอ็ด จึงไม่สามารถส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดร้อยเอ็ดได้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๔๕
คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ ๑๐๐๕/๒๕๖๒
พรรค ท. ไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสระบุรี จึงไม่สามารถส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดสระบุรีได้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๔๕
คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ ๑๖๔๖/๒๕๖๒
พรรค ป. ไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดหนองคาย จึงไม่สามารถส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดหนองคายได้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๔๕
แผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา
สิงหาคม ๒๕๖๕