ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง ตอนที่ ๘

วันที่เผยแพร่
30/08/2565

ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง ตอนที่ ๘

“แนวคำวินิจฉัยของศาลฎีกาเกี่ยวกับผู้สมัครรับเลือกตั้งกับพรรคการเมือง”

บุคคลซึ่งจะใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑  มาตรา ๙๗ (๓) ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคการเมืองเดียว... และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๔๗  กำหนดให้พรรคการเมืองซึ่งประสงค์จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใด ต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้น

      การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งจากผู้ซึ่งได้รับเลือกจากสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้นเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งและมาตรา ๔๘ การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อให้พรรคการเมืองจัดทำบัญชีรายชื่อ เพื่อส่งให้สาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด...

       มาตรา ๑๔๕ ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกที่มีขึ้นภายหลังจากวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับหากพรรคการเมืองใดได้จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดไว้แล้วในจังหวัดใด ให้พรรคการเมืองนั้นสามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น

     จากบทบัญญัติดังกล่าวกำหนดให้พรรคการเมืองเป็นผู้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและในเขตเลือกตั้งที่ส่งผู้สมัครนั้นต้องมีสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้น ดังนั้น หากพรรคการเมืองใดไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัดก็ไม่สามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ เช่น

คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ ๙๘๓/๒๕๖๒

         พรรค พ. ไม่ดำเนินการแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เนื่องจากข้อบังคับพรรค พ. ให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้เรียกประชุมใหญ่ทุกคราว แต่หนังสือเรียกประชุมใหญ่ เพื่อดำเนินการถอดถอนนาย ส. จากหัวหน้าพรรคและให้พ้นจากสมาชิกภาพ ลงนามโดย นาย ช. รองหัวหน้าพรรค พ. เป็นการประชุมที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค ไม่มีผลเป็นการถอดถอนนาย ส. จากหัวหน้าพรรคและไม่พ้นจากสมาชิกภาพ หนังสือที่นาย อ. ลงนามในฐานะหัวหน้าพรรค พ. แจ้งการแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง จึงไม่ได้ลงนามโดยหัวหน้าพรรค พ. หรือโดยผู้ได้รับมอบอำนาจจากหัวหน้าพรรค ถือได้ว่าพรรค พ. ไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด จึงไม่สามารถส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกเขตเลือกตั้ง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๔๕

คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ ๑๑๙๘/๒๕๖๒

    พรรค ร. ไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดร้อยเอ็ด จึงไม่สามารถส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดร้อยเอ็ดได้  ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๔๕

คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ ๑๐๐๕/๒๕๖๒

    พรรค ท. ไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสระบุรี จึงไม่สามารถส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดสระบุรีได้  ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๔๕

คำพิพากษาของศาลฎีกาที่ ๑๖๔๖/๒๕๖๒

     พรรค ป. ไม่ดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดหนองคาย จึงไม่สามารถส่งสมาชิกสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดหนองคายได้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๔๕

 

 

 

                                                       แผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา

                                                                  สิงหาคม ๒๕๖๕


เผยแพร่โดย

แผนกคดีเลือกตั้ง

เข้าดู
แชร์บทความนี้

บทความสาระความรู้ล่าสุด
การฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีรถชนที่มีการฟ้องผู้กระทำความผิดเป็นคดีอาญาด้วย

ในคดีละเมิดอำนาจศาล ศาลชั้นต้นลงโทษผู้ถูกกล่าวหาฐานละเมิดอำนาจศาลให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ถูกกล่าวหาฎีกาได้หรือไม่

กรณีที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้กระทำละเมิด ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยที่ 2 แต่เป็นลูกจ้างบริษัท จ. โจทก์จึงยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 แล้วขอให้ศาลหมายเรียกบริษัท จ. นายจ้างที่แท้จริง เข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีได้หรือไม่

การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่
การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่