ต่างคนต่างฎีกา เสียค่าขึ้นศาลอย่างไร

ต่างคนต่างฎีกา เสียค่าขึ้นศาลอย่างไร

          การขออนุญาตฎีกาต่อศาลฎีกาในคดีแพ่งนั้น กฎหมายกำหนดให้ผู้ขออนุญาตต้องยื่นคำร้องพร้อมคำฟ้องฎีกาต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๗ วรรคสอง ทั้งผู้ขออนุญาตฎีกายังมีหน้าที่ต้องเสียค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาและต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายมาวางศาลพร้อมคำฟ้องฎีกานั้นด้วย ตามข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการขออนุญาตฎีกาในคดีแพ่ง พ.ศ.๒๕๕๘ ข้อ ๗ และข้อ ๘

          หากคดีหนึ่งมีจำเลย ๒ คน ร่วมกันกระทำละเมิดให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดชำระเงินแก่โจทก์ ๕๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งคิดเป็นค่าขึ้นศาลชั้นฎีการ้อยละ ๒ ของจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันเป็นเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท เมื่อจำเลยทั้งสองต้องการที่จะฎีกาขอให้ยกฟ้อง โดยยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกาพร้อมกับคำฟ้องฎีการวมกันมาฉบับเดียวกัน และเสียค่าขึ้นศาลครบถ้วน ๑๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นไปตามปกติ

          แต่ถ้าจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ต่างประสงค์ยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกาพร้อมกับคำฟ้องฎีกาแยกกันมาคนละฉบับ ปัญหามีให้ชวนคิดว่า แต่ละคนจะต้องเสียค่าขึ้นศาลคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท หรือไม่ เพราะศาลฎีกาต้องแยกพิจารณาฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นรายฉบับ

          เรื่องนี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๕๐ วรรคห้า บัญญัติว่า ในกรณีที่จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ เป็นคู่ความร่วมในคดีที่มีมูลความแห่งคดีเป็นการชำระหนี้อันไม่อาจแบ่งแยกได้ดังเช่นคดีนี้ หากจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ เสียค่าขึ้นศาลมารวมกันแล้วมีจำนวนสูงกว่าค่าขึ้นศาลที่จำเลยทั้งสองต้องชำระในกรณียื่นฎีการ่วมกัน ให้ศาลฎีกามีคำสั่งคืนค่าขึ้นศาลส่วนเกินให้จำเลยทั้งสองตามส่วนของค่าขึ้นศาลที่จำเลยแต่ละคนได้ชำระไป

          ดังนั้น การที่จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ จะแยกเสียค่าขึ้นศาลกันมา เมื่อรวมกันแล้วเกินจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ศาลก็จะสั่งคืนให้ตามส่วนของแต่ละคน ก็เพื่อความเป็นธรรมแก่คู่ความนั่นเอง (แนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๙๔/๒๕๖๒) 

 

ผู้เขียน  นายภาณุ  อุทโยภาศ  ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ผู้ตรวจ  นายเอื้อน ขุนแก้ว  ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา


เผยแพร่โดย

แผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกา

เข้าดู
แชร์บทความนี้

บทความสาระความรู้ล่าสุด
การฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีรถชนที่มีการฟ้องผู้กระทำความผิดเป็นคดีอาญาด้วย

ในคดีละเมิดอำนาจศาล ศาลชั้นต้นลงโทษผู้ถูกกล่าวหาฐานละเมิดอำนาจศาลให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ถูกกล่าวหาฎีกาได้หรือไม่

กรณีที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้กระทำละเมิด ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยที่ 2 แต่เป็นลูกจ้างบริษัท จ. โจทก์จึงยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 แล้วขอให้ศาลหมายเรียกบริษัท จ. นายจ้างที่แท้จริง เข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีได้หรือไม่

การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่
การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่