คดีอาญาทั่วไป หากคู่ความจะยื่นฎีกาต้องปฏิบัติอย่างไร

 

 

 

         คดีอาญาทั่วไป หากคู่ความจะยื่นฎีกาต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มิใช่มายื่นฎีกาพร้อมคำร้องขออนุญาตฎีกา เพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติให้กระทำได้

         คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๒ และให้จำเลยคืนรถยนต์หรือชดใช้ราคาเป็นเงิน ๙๐๙,๐๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย ระหว่างพิจารณาผู้เสียหายที่ ๒ ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ พิพากษายืน ให้ยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของผู้เสียหายที่ ๒ และยกอุทธรณ์ของโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกา เห็นว่า การฎีกาคัดค้านคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ภาค ๔ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๖ เป็นสิทธิของคู่ความที่จะฎีกาได้ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๒๑๗ ถึง ๒๒๑ มิได้บัญญัติว่าการฎีกาให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา การที่โจทก์ร่วมยื่นคำร้องขออนุญาตฎีกามาพร้อมกับฎีกาเพื่อขอให้ศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ร่วมฎีกา และศาลชั้นต้นมีคำสั่งส่งมายังศาลฎีกา จึงเป็นการไม่ถูกต้อง (คำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ ท. ๙/๒๕๖๑)

 

ผู้เขียน  นางสุรัชดา  เตชะภาสรนันทน์  ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ผู้ตรวจ  นายสมศักย์  ธรรมชัยเดชา  ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา


เผยแพร่โดย

แผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกา

เข้าดู
แชร์บทความนี้

บทความสาระความรู้ล่าสุด
การฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีรถชนที่มีการฟ้องผู้กระทำความผิดเป็นคดีอาญาด้วย

ในคดีละเมิดอำนาจศาล ศาลชั้นต้นลงโทษผู้ถูกกล่าวหาฐานละเมิดอำนาจศาลให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ถูกกล่าวหาฎีกาได้หรือไม่

กรณีที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้กระทำละเมิด ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยที่ 2 แต่เป็นลูกจ้างบริษัท จ. โจทก์จึงยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 แล้วขอให้ศาลหมายเรียกบริษัท จ. นายจ้างที่แท้จริง เข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีได้หรือไม่

การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่
การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่