จำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวโดยมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร จำเลยขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาหรือไม่
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๖, ๑๕๑, ๑๕๗ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๒๓/๑ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๖๕ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๗๒, ๑๙๓ พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๔, ๑๒, ๑๓ และนับโทษจำเลยที่ ๒ ต่อจากคดีอื่น ระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ ๒ ชั่วคราว โดยมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเพื่อไปท่องเที่ยว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุผลและความจำเป็น ให้ยกคำร้อง จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๖ ประกอบพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๖ ให้ยกคำร้อง จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยที่ ๒ เดินทางออกนอกราชอาณาจักรเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน กรณีจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นระหว่างพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๖ ประกอบพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๖ ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ ๒ นั้นชอบแล้ว ให้ยกฎีกาของจำเลยที่ ๒. ( ตามคำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ ๑๖๐/๒๕๖๖ และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๔๑๐๕/๒๕๖๒)
ผู้เขียน นายประเสริฐ ผดุงเกียรติวัฒนา รองเลขานุการศาลฎีกา
ผู้ตรวจ นายสมศักย์ ธรรมชัยเดชา ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
วันที่ ๒๗ พฤษภาคาม ๒๕๖๗