คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นตรวจสำนวนแล้วมีคำสั่งไม่รับฟ้องกรณีหนึ่ง หรือศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง อีกกรณีหนึ่ง ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฟ้องโจทก์ หรือศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษายกฟ้องโจทก์ และให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนมูลฟ้องหรือพิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ทั้งสองกรณีจำเลยจะฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้หรือไม่
>>> ในคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ และศาลชั้นต้นยังไม่ได้ประทับฟ้อง มิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเช่นนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๕ วรรคสาม จำเลยยังไม่มีฐานะเป็นคู่ความ กรณีถือเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์ จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ได้ (แนวคำสั่งคำร้องที่ ท. ๑๘/๒๕๖๔ และ ท. ๒๕๒/๒๕๖๔)
ผู้เขียน นางกองแก้ว ว่องพิสุทธิพงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ผู้ตรวจ นายสมศักย์ ธรรมชัยเดชา ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
วันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๗