ในคดีอาญา ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ หากศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์เพราะเป็นอุทธรณ์ต้องห้าม คดีของโจทก์ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่

ในคดีอาญา ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์เพราะเป็นอุทธรณ์ต้องห้าม คดีของโจทก์ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๐ หรือไม่

 ในคดีอาญาที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์เพราะเป็นอุทธรณ์ต้องห้าม มิใช่กรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๒๐ จึงไม่ต้องห้ามฎีกา (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๐๖๒/๒๕๖๓, คำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ ๒๖๖๙/๒๕๔๖)

 

ผู้เขียน  นางสาวลดาวัลย์  อริยสิทธิ์  ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ผู้ตรวจ  นายสมศักย์  ธรรมชัยเดชา  ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีก

วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๗


เผยแพร่โดย

แผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกา

เข้าดู
แชร์บทความนี้

บทความสาระความรู้ล่าสุด
การฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีรถชนที่มีการฟ้องผู้กระทำความผิดเป็นคดีอาญาด้วย

ในคดีละเมิดอำนาจศาล ศาลชั้นต้นลงโทษผู้ถูกกล่าวหาฐานละเมิดอำนาจศาลให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ถูกกล่าวหาฎีกาได้หรือไม่

กรณีที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้กระทำละเมิด ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยที่ 2 แต่เป็นลูกจ้างบริษัท จ. โจทก์จึงยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 แล้วขอให้ศาลหมายเรียกบริษัท จ. นายจ้างที่แท้จริง เข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีได้หรือไม่

การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่
การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่