ข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (1)

จำเลยกระทำความผิดสองคดี คดีหลังตัดสินก่อนคดีแรกให้ลงโทษจำคุกจำเลย คดีถึงที่สุดแล้ว ส่วนคดีแรกอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ต้องตีความเป็นคุณแก่จำเลยว่า ขณะกระทำความผิดคดีนี้ จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน คดีนี้จึงรอการลงโทษจำคุกจำเลยได้ นั้น

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ (๑) ที่บัญญัติว่า...ไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน... นั้น หมายถึง จำเลยไม่ได้รับโทษจำคุกมาก่อนคดีที่ศาลกำลังจะพิพากษา โดยไม่ต้องพิจารณาว่า ขณะกระทำความผิดคดีนี้จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน หรือคดีที่ได้รับโทษจำคุกมาก่อนนั้น จำเลยกระทำ ความผิดก่อนหรือหลังคดีนี้ (เทียบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๘๖๕/๒๕๖๖)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๘๖๕/๒๕๖๖

...มีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ บัญญัติว่า ถ้าปรากฏว่าผู้นั้น (๑) ไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน… ศาลจะรอการลงโทษผู้นั้นไว้ก็ได้ น่าจะตีความในทางที่เป็นคุณแก่จำเลยว่า ขณะจำเลยกระทำความผิดคดีนี้ จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนหรือไม่ นั้น เห็นว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้เถียงกันในชั้นฎีกาฟังได้ตามรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยของ พนักงานคุมประพฤติซึ่งจำเลยไม่คัดค้านว่า จำเลยเคยได้รับโทษจำคุกเกินหกเดือน และไม่ใช่โทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ โดยจำเลยฎีการับว่า จำเลยต้องคำพิพากษาถึงที่สุด ให้จำคุกเมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นเวลาภายหลังเกิดเหตุคดีนี้ตามสำเนาคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขแดงที่ คม. ๑/๒๕๖๑ ของศาลจังหวัดอุดรธานี เอกสารท้ายคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา ฉบับลงวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๕ การที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ บัญญัติว่า ถ้าปรากฏว่าผู้นั้น 
(๑) ไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน…ฯลฯ… ศาลจะรอการลงโทษผู้นั้นไว้ก็ได้นั้น หมายถึงว่า จำเลยไม่ได้รับโทษจำคุกมาก่อนคดีที่ศาลกำลังจะพิพากษา ซึ่งตามมาตรา ๕๖ ไม่ได้ระบุว่าคดีที่จำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อนนั้นต้องเป็นการกระทำความผิดมาก่อนคดีเรื่องหลัง จึงไม่อาจแปลกฎหมายดังที่จำเลยอ้างได้ เมื่อจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนและเป็นโทษจำคุกเกินกว่าหกเดือน และมิใช่โทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ จึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ที่จะรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยได้ ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น…

 

 

ผู้เขียน นางกองแก้ว ว่องพิสุทธิพงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ผู้ตรวจ นายสมศักย์ ธรรมชัยเดชา ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๗

 


เผยแพร่โดย

แผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกา

เข้าดู
แชร์บทความนี้

บทความสาระความรู้ล่าสุด
การฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีรถชนที่มีการฟ้องผู้กระทำความผิดเป็นคดีอาญาด้วย

ในคดีละเมิดอำนาจศาล ศาลชั้นต้นลงโทษผู้ถูกกล่าวหาฐานละเมิดอำนาจศาลให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ถูกกล่าวหาฎีกาได้หรือไม่

กรณีที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้กระทำละเมิด ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยที่ 2 แต่เป็นลูกจ้างบริษัท จ. โจทก์จึงยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 แล้วขอให้ศาลหมายเรียกบริษัท จ. นายจ้างที่แท้จริง เข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีได้หรือไม่

การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่
การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่