ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง "กรณีการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม"

วันที่เผยแพร่
27/01/2565

ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง

“กรณีการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม”

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ได้บัญญัติวิธีการและกำหนดมาตรการ
ในการบังคับให้มีการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมอย่างมีประสิทธิภาพและด้วยความรวดเร็ว โดยให้อำนาจคณะกรรมการการเลือกตั้งและศาลฎีกาวินิจฉัยได้โดยตรงและเป็นที่สุด ดังนี้

๑. กรณีก่อนประกาศผลการเลือกตั้งและก่อนวันเลือกตั้ง

           ๑.๑ คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจสั่งระงับ ยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือกตั้ง และสั่งให้ดำเนินการเลือกตั้งใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ในหน่วยการเลือกตั้งบางหน่วยเลือกตั้งได้ กรณีที่ได้สืบสวนหรือไต่สวนแล้วหรือพบเห็นการกระทำที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือกรรมการการเลือกตั้งพบเห็นการกระทำหรือการงดเว้นการกระทำใดอันอาจเป็นเหตุให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรมหรือเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๒๔ (๓) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๓๗)

           ๑.๒ คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครนั้นไว้เป็น  การชั่วคราวเป็นระยะเวลาไม่เกิน ๑ ปี นับแต่วันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำสั่ง กรณีที่ได้สืบสวนหรือไต่สวนแล้วมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้สมัครผู้ใดกระทำการอันเป็นเหตุให้การเลือกตั้งนั้นมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้สมัครผู้ใดก่อให้ผู้อื่นกระทำการดังกล่าว หรือรู้ว่ามีการกระทำการดังกล่าวแล้วไม่ดำเนินการเพื่อระงับการกระทำนั้น (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๒๔ (๔) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๓๒)

           คณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๒๖ วรรคหนึ่ง และวรรคสาม เพิกถอนสิทธิสมัคร   รับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา ๑๐ ปี)

๒. กรณีก่อนประกาศผลการเลือกตั้งและหลังวันเลือกตั้ง

           ๒.๑ คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจงดการประกาศผลการเลือกตั้งและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ กรณีที่ได้รับรายงานผลการนับคะแนนแล้ว ถ้าปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม หรือการนับคะแนนเป็นไปโดยไม่ถูกต้อง (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๒๕ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๒๔)

           ๒.๒คณะกรรมการการเลือกตั้งสืบสวนหรือไต่สวนแล้วเห็นว่า มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัคร
ซึ่งได้คะแนนอยู่ในลำดับที่จะได้รับการเลือกตั้ง กระทำการอันเป็นเหตุให้การเลือกตั้งนั้นมิได้เป็นไปโดยสุจริต
และเที่ยงธรรม หรือหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้สมัครซึ่งได้คะแนนอยู่ในลำดับที่จะได้รับการเลือกตั้งก่อให้ผู้อื่นกระทำดังกล่าว หรือรู้ว่ามีการกระทำดังกล่าวแล้วไม่ดำเนินการเพื่อระงับการกระทำนั้น 

           ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้สมัครนั้นไว้เป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลาไม่เกิน ๑ ปี นับแต่วันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำสั่ง ให้สั่งยกเลิกการเลือกตั้งและให้มีการเลือกตั้งใหม่

           ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือ
เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๒๕ และมาตรา ๒๒๖ วรรคหนึ่ง และ
วรรคสาม และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๓๒ มาตรา ๑๓๘ และมาตรา ๑๓๙ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา ๑๐ ปี)

           คำสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไว้เป็นการชั่วคราว หรือสั่งยกเลิกการเลือกตั้งและให้มีการเลือกตั้งใหม่ให้เป็นที่สุด

๓. กรณีหลังประกาศผลการเลือกตั้ง

           ๓.๑ คณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อว่า ผู้สมัครซึ่งได้คะแนนอยู่ในลำดับที่จะได้รับการเลือกตั้งหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการทุจริตในการเลือกตั้งหรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๒๖ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๓๘) และร้องขอให้ศาลฎีกาสั่งให้ผู้นั้นรับผิดในค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งครั้งที่เป็นเหตุให้ศาลฎีกามีคำสั่ง (พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๓๙)

           ๓.๒ คณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ กรณีเมื่อประกาศผลการเลือกตั้งแล้วปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม แต่ไม่ได้ความชัดว่าเป็นการกระทำของผู้ได้รับเลือกตั้ง และให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการ
ให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว (พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๓๓)

 

แผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา

 มกราคม 2565


เผยแพร่โดย

แผนกคดีเลือกตั้ง

เข้าดู
แชร์บทความนี้

บทความสาระความรู้ล่าสุด
การฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีรถชนที่มีการฟ้องผู้กระทำความผิดเป็นคดีอาญาด้วย

ในคดีละเมิดอำนาจศาล ศาลชั้นต้นลงโทษผู้ถูกกล่าวหาฐานละเมิดอำนาจศาลให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ถูกกล่าวหาฎีกาได้หรือไม่

กรณีที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้กระทำละเมิด ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยที่ 2 แต่เป็นลูกจ้างบริษัท จ. โจทก์จึงยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 แล้วขอให้ศาลหมายเรียกบริษัท จ. นายจ้างที่แท้จริง เข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีได้หรือไม่

การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่
การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่