คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยาและนายกเมืองพัทยา เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๕ โดยให้จัดการเลือกตั้งภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้ง มีกฎหมายที่ควรรู้และเกี่ยวข้องกับศาลยุติธรรมอย่างไรบ้าง
เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้งแล้ว หลังจากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้งจะประกาศรับสมัครการเลือกตั้ง โดยกำหนดวันเลือกตั้งขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕ และวันรับสมัครระหว่างวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๕ โดยได้กำหนดคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามมิให้สมัครรับการเลือกตั้ง ซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๒
การรับสมัครการเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เมื่อได้รับใบสมัครแล้วให้ตรวจเอกสารและตรวจสอบว่าผู้นั้นมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ เมื่อเห็นว่าถูกต้องและผู้นั้นมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ให้ประกาศรายชื่อผู้สมัครภายใน ๗ วัน นับแต่วันปิดรับสมัคร
เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว มีบทบัญญัติไว้ ๒ กรณี
๑. กรณีไม่ประกาศรายชื่อผู้สมัคร : ผู้สมัครที่ไม่มีชื่อในประกาศรายชื่อผู้สมัคร มีสิทธิยื่น
คำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่ประกาศรายชื่อผู้สมัคร ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำวินิจฉัยโดยเร็ว และให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำวินิจฉัยนั้น (มาตรา ๕๕) ในกรณีนี้ เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำวินิจฉัยอย่างไรแล้วไม่สามารถยื่นคำร้องหรือใช้สิทธิทางศาลได้
๒. กรณีประกาศรายชื่อผู้สมัครแล้วขอถอนจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร : เมื่อมีหลักฐาน
ตามสมควรว่าผู้สมัครผู้นั้นไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งให้สั่งถอนชื่อผู้นั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร (มาตรา ๕๖ วรรค ๑)
เมื่อความปรากฏต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นหรือได้รับแจ้งจากบุคคลใดว่าผู้สมัครผู้ใดไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัยโดยเร็ว
ถ้าความปรากฎหรือได้รับแจ้งก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่ายี่สิบวัน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัยให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน
การอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (มาตรา ๕๖ วรรค ๓ )
๑. ผู้ที่มีสิทธิอุทธรณ์ คือ ผู้สมัครซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำวินิจฉัยให้ถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครเพราะเหตุไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
๒. อุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคที่มีเขตอำนาจ
๓. คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคให้เป็นที่สุด
๔. การอุทธรณ์ดังกล่าวไม่เป็นเหตุให้ระงับหรือชะลอการเลือกตั้ง
๕. ศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาคพิจารณาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกตั้ง
การยื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อศาล
๑. ศาลอุทธรณ์มีอำนาจในการพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภา
กรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมีอำนาจครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้งหมด และการพิจารณาและวินิจฉัยคดีของศาลอุทธรณ์ ตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ว่าด้วยการพิจารณาและวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือสิทธิเลือกตั้งในการเลือกสมาชิกท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๒
๑.๑ ยื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ ภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งว่าถูกถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร (ระเบียบที่ประชุมใหญ่ฯ ข้อ ๑๖ และข้อ ๑๗) หรือ
๑.๒ ยื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อศาลแพ่ง ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลแพ่งธนบุรี ศาลแพ่งตลิ่งชัน ศาลแพ่งมีนบุรี และศาลแพ่งพระโขนง ที่เขตเลือกตั้งอยู่ในเขตอำนาจภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งว่าถูกถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร (ระเบียบที่ประชุมใหญ่ฯ ข้อ ๑๖ และข้อ ๑๙)
๒. ศาลอุทธรณ์ ภาค ๒ มีอำนาจในการพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยาและนายกเมืองพัทยา โดยมีอำนาจครอบคลุมพื้นที่จังหวัดชลบุรี อำเภอบางละมุง เมืองพัทยา
๒.๑ ยื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ ภาค ๒ ภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งว่าถูกถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร (ระเบียบที่ประชุมใหญ่ฯ ข้อ ๑๖ และข้อ ๑๗) หรือ
๒.๒ ยื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อศาลจังหวัดพัทยา ที่เขตเลือกตั้งอยู่ในเขตอำนาจ ภายใน ๓ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งว่าถูกถอนชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร (ระเบียบที่ประชุมใหญ่ฯ ข้อ ๑๖ และข้อ ๑๙)
ดังนั้น ในการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และการเลือกตั้งสมาชิกสภาเมืองพัทยาและนายกเมืองพัทยา ซึ่งศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาค ๒มีอำนาจในการพิจารณา และวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการสมัครรับเลือกตั้งและเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่จะใช้สิทธิในการอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้วยังมีสิทธิยื่นต่อศาลแพ่งหรือศาลแพ่งอื่นในกรุงเทพมหานคร หรือศาลจังหวัดพัทยาที่มีเขตเลือกตั้งอยู่ในเขตอำนาจได้อีกด้วย
แผนกคดีเลือกตั้งในศาลฎีกา
มีนาคม ๒๕๖๕