ศาลสั่งให้พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถคนละประเภทกับรถที่ขับในขณะกระทำความผิดได้หรือไม่

ศาลสั่งให้พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถคนละประเภทกับรถที่ขับในขณะกระทำความผิดได้

คดีนี้ จำเลยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์มีเพียงใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว จำเลยขับรถจักรยานยนต์ในขณะเมาสุรามีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินปริมาณที่กฎหมายกำหนด มีปัญหาในชั้นฎีกาว่า ศาลมีอำนาจสั่งให้พักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถคนละประเภทกับรถที่ขับในขณะกระทำความผิดได้หรือไม่

ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๕๓๓๑/๒๕๖๓ โดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า การพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ นี้ แม้มิใช่โทษที่ใช้สำหรับลงโทษผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘ หรือวิธีการเพื่อความปลอดภัยตามมาตรา ๓๙ ก็ตาม แต่ก็มีบทบังคับเช่นเดียวกับวิธีการเพื่อความปลอดภัยด้วยเจตนาคุ้มครองประชาชนหรือสังคมเพื่อป้องกันมิให้ผู้ถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ไปขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยายนต์ในกรณีที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นอีกตามความมุ่งหมายและเจตนารมณ์ของกฎหมายเพื่อคุ้มครองประชาชนทั่วไปมิให้ได้รับอันตรายที่อาจเกิดจากการกระทำของผู้กระทำความผิด การพักใช้ใบอนุญาตขับขี่จึงเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยที่มีความสำคัญเพื่อป้องปรามมิให้ผู้ขับขี่กลับไปกระทำความผิดในช่วงระยะเวลาที่ถูกพักใช้ใบอนุญาต ทั้งตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔ (๑๕) ให้คำนิยามคำว่า รถ หมายถึง ยานพาหนะทางบกทุกชนิดเว้นแต่รถไฟและรถราง ดังนั้น รถจักรยานยนต์และรถยนต์จึงอยู่ในความหมายของคำว่า รถ ด้วย ซึ่งการพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่จะอยู่ในลักษณะ ๑๙ บทกำหนดโทษดังเช่นมาตรา ๑๕๗/๑, ๑๖๐ ทวิ, ๑๖๐ ตรี โดยมิได้กล่าวถึงการขับขี่ยานพาหนะชนิดหนึ่งชนิดใดแล้วให้ศาลมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ยานพาหนะที่เกี่ยวข้องหรือชนิดนั้นไว้โดยเฉพาะ แต่เป็นการกล่าวถึงการขับขี่ยานพาหนะที่มีลักษณะเป็นการกระทำความผิดแล้วให้ศาลมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่เพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดไปยุ่งเกี่ยว ควบคุม หรือขับขี่ยานพาหนะทั้งหมดที่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ศาลจึงต้องสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ทุกกรณี ไม่ว่าใบอนุญาตขับขี่นั้นจะเกี่ยวข้องกับยานพาหนะที่ผู้กระทำความผิดขับขี่ในขณะกระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม แม้จำเลยมีใบอนุญาตขับขี่รถคนละประเภทกันกับรถที่จำเลยขับในขณะกระทำความผิด ศาลก็มีอำนาจสั่งให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราวของจำเลยได้

 

    ผู้เขียน  นายประเสริฐ ผดุงเกียรติวัฒนา  

ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองเลขานุการศาลฎีกา

ผู้ตรวจ  นางปรานี เชาวลิต  ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๕ 


เผยแพร่โดย

แผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกา

เข้าดู
แชร์บทความนี้

บทความสาระความรู้ล่าสุด
การฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีรถชนที่มีการฟ้องผู้กระทำความผิดเป็นคดีอาญาด้วย

ในคดีละเมิดอำนาจศาล ศาลชั้นต้นลงโทษผู้ถูกกล่าวหาฐานละเมิดอำนาจศาลให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ถูกกล่าวหาฎีกาได้หรือไม่

กรณีที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้กระทำละเมิด ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยที่ 2 แต่เป็นลูกจ้างบริษัท จ. โจทก์จึงยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 แล้วขอให้ศาลหมายเรียกบริษัท จ. นายจ้างที่แท้จริง เข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีได้หรือไม่

การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่
การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่