วันนี้ เวลา 09.30 นาฬิกา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง ยื่นคำร้องว่า นายสุชาติ ภิญโญ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต 14 จังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ จนถึงวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๖ กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยผู้คัดค้านและนางสาวพรทิพย์ ทองแสงสุข ผู้ซึ่งอยู่กินฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรส ยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าไม้ถาวรป่าวังน้ำเขียว อันเป็นที่ดินของรัฐ บริเวณบ้านห้วยน้ำเค็ม หมู่ที่ ๑๑ ตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 1 แปลง เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ และยึดถือครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐในเขตปฏิรูปที่ดิน บริเวณบ้านวังไผ่หมู่ที่ ๑๒ ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 6 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ 3 งาน 90 ตารางวา โดยไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน และไม่ใช่บุคคลผู้มีคุณสมบัติเป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกร ผู้คัดค้านไม่มีสิทธิยึดถือครอบครองและเข้าทำประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของผู้คัดค้านจึงเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เป็นการถือเอาประโยชน์ที่ได้จากการกระทำโดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือโดยทุจริตของผู้คัดค้านในระหว่างการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐหรือแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอันเป็นประโยชน์ส่วนรวมเพื่อเป็นประโยชน์ส่วนตน และกระทำการที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. ๒๕๖๑ ข้อ 7 ข้อ 17 ประกอบข้อ 3 และข้อ 27 วรรคสอง ขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่าผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้าน และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกินสิบปี ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๒๓๕ ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๘๗ ประกอบมาตรา 81 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ ๑๗ ประกอบข้อ ๓ และข้อ ๒๗ วรรคสอง
ศาลฎีกาจะพิจารณาและมีคำสั่งต่อไป