ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีอาญาให้จำเลยซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำฟัง ผ่านการถ่ายทอดภาพและเสียงในลักษณะการประชุมทางจอภาพ (Video Conference)

portfolio
16 ธันวาคม 2563
เข้าดู 134 ครั้ง

       ตามที่ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลฎีกาในคดีอาญา
ที่ศาลฎีกา โดยจัดให้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงในลักษณะการประชุมทางจอภาพ พ.ศ. ๒๕๖๓ มุ่งหวังให้นำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อเป็นหลักประกันการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำให้ทราบคำพิพากษาศาลฎีกาโดยเร็ว เพื่อให้พ้นจากการถูกคุมขังโดยไม่จำเป็นหรือรับสิทธิการเป็นนักโทษเด็ดขาดที่อาจได้รับประโยชน์ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์หรืออาจได้รับสิทธิพระราชทานอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ รวมถึงลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายนักโทษ ตลอดจนมิให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid- 19) นอกจากนี้เป็นการดูแลเยียวยาให้ผู้เสียหายได้รับค่าเสียหาย
ในคดีส่วนแพ่งได้เร็วขึ้น ศาลฎีกาจึงดำเนินการอ่านคำพิพากษาให้จำเลยซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำต่าง ๆ ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องตลอดมา

       ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๓ ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีการวม ๔ เรื่อง โดยมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก
ทั้งสิ้น เป็นผลให้จำเลยทั้งหมดมีสถานะเป็นนักโทษเด็ดขาดก่อนวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ จึงได้รับประโยชน์จากพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรม
ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๓

       เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องพิจารณาคดี ๒ (ห้อง ๒๐๕) ชั้น ๒ อาคาร
ศาลฎีกา ผู้พิพากษาศาลฎีกาออกนั่งอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีอาญาความผิดต่อชีวิต ร่างกาย เบิกตัวจำเลยซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางนครสวรรค์มาฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ โดยมีคำพิพากษาถึงที่สุด
ให้ยกฟ้องโจทก์และให้ศาลจังหวัดนครสวรรค์ออกหมายปล่อยตัวจำเลยให้ได้รับอิสรภาพโดยพลัน

      ต่อมาในวันเดียวกันเวลา ๑๐.๓๐ นาฬิกา มีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีอาญาของศาลอาญา
ในความผิดต่อทรัพย์ เอกสาร ให้จำเลยที่ถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางฟัง โดยมีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ
เป็นสักขีพยานยืนยันตัวตนของจำเลย ซึ่งศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำเลยและมีคำสั่งให้
ออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด เพื่อให้มีสถานะเป็นนักโทษเด็ดขาดต่อไป

          ทั้งนี้ ศาลฎีกาจะนำคดีอาญาที่จำเลยต้องขังที่อยู่ในหลักเกณฑ์เข้าสู่ระบบการอ่านในลักษณะการประชุม
ทางจอภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความยุติธรรมและเป็นหลักประกันคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของจำเลย
และผู้เสียหายอย่างเสมอภาค ซึ่งเป็นไปตามนโยบายประธานศาลฎีกา ปี ๒๕๖๓ –๒๕๖๔ ข้อ ๒ “สร้างดุลยภาพแห่งสิทธิ”