วันนี้ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษา (ชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์) คดีหมายเลขดำที่ อม.อธ. ๒/๒๕๖๔ หมายเลขเลขแดงที่ อม.อธ. ๑/๒๕๖๕ ระหว่าง อัยการสูงสุด โจทก์ นายสุวิทย์ ศิลาทอง จำเลยที่ ๑ นางสาวสุทิพย์ ทิพย์สุวรรณ ที่ ๒ พันตำรวจเอกพิชัย เกรียงวัฒนสิริ ที่ ๓ พันตำรวจโทรักศิลป์ รัตนวราหะ ที่ ๔ เรื่อง ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ
คดีนี้ เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา
องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์พิจารณาแล้ว เห็นว่า แม้จําเลยทั้งสี่ซึ่งเป็นคณะกรรมการบริหารโครงการฯ มีอำนาจหน้าที่บริหารโครงการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร แต่การที่พลตำรวจตรีอธิลักษณ์นำร่าง A.O.U. ให้คณะกรรมการบริหารโครงการฯ พิจารณาก่อนลงนามใน A.O.U. ที่มีมูลค่าสูงถึง ๑๓๓,๗๔๙,๗๘๐ ยูโร คิดเป็นเงินไทยประมาณ ๖,๖๘๗,๔๘๙,๐๐๐ บาท เพียง ๑ วัน จึงเป็นที่สงสัยว่าเป็นการกระทำเพื่อปกปิดข้อเท็จจริงในการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงที่มีราคาสูงมิให้จำเลยทั้งสี่ล่วงรู้ เพื่อให้การพิจารณาร่าง A.O.U. ผ่านไปได้โดยเร็ว และร่าง A.O.U. ระบุให้มีการลงนามระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐออสเตรีย ทำให้จำเลยทั้งสี่เข้าใจว่าเป็นความตกลงระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ การรับทราบและตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับร่าง A.O.U. จึงเป็นกรณีที่จำเลยทั้งสี่เข้าใจว่าได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามคำสั่งกรุงเทพมหานครโดยถูกต้องแล้ว พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสี่ฟังได้ว่า จำเลยทั้งสี่ได้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารโครงการฯ ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏเท่าที่ทำได้ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการแล้ว ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยทั้งสี่ในฐานะคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ เห็นว่า เมื่อ A.O.U. เป็นการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษตามมติของคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุของกรุงเทพมหานคร และเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษของกระทรวงกลาโหม ปรากฏว่ากรุงเทพมหานครมีการเสนอขออนุมัติคณะรัฐมนตรีเพื่อทำความตกลงกับสาธารณรัฐออสเตรียก่อนที่จะมีการแต่งตั้งจำเลยทั้งสี่เป็นคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ ซึ่งเป็นการสลับขั้นตอนผิดไปจากการดำเนินการตามปกติ และยังเป็นการจำกัดอำนาจของคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษให้ต้องจัดซื้อตามราคาที่กำหนดมาแล้ว ทั้งการแต่งตั้งจำเลยทั้งสี่ดังกล่าวก่อนจะมีการลงนามซื้อขายในวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๔๗ เพียง ๗ วัน เป็นการจำกัดให้จำเลยทั้งสี่มีเวลาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้น้อยที่สุด แม้ในช่วงระยะเวลาที่ยังไม่มีการแต่งตั้งจำเลยทั้งสี่ก็มีการดำเนินการต่าง ๆ โดยมุ่งหมายเพื่อทำข้อตกลงซื้อขายมาโดยตลอด การแต่งตั้งจำเลยทั้งสี่ดังกล่าวจึงเป็นเพียงเพื่อให้ครบถ้วนตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในข้อบัญญัติของกรุงเทพมหานคร เรื่อง การพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๘ ประกอบกับคดีนี้เป็นการจัดซื้อจากต่างประเทศที่มีข้อตกลงเกี่ยวกับการค้าต่างตอบแทนในราคาที่เท่ากัน จะอนุมานว่าจำเลยทั้งสี่ทราบข้อเท็จจริงว่ารถและเรือดับเพลิงมีราคาสูงอยู่ก่อนแล้วย่อมเป็นการรับฟังเป็นผลร้ายแก่จำเลยทั้งสี่ พฤติการณ์แห่งคดีมีข้อจำกัดทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามปกติและเป็นไปได้ว่าจำเลยทั้งสี่เป็นเพียงกลไกที่ถูกใช้เป็นทางผ่านเพื่อนำไปสู่การจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงตามที่มีการดำเนินการ โดยส่วนอื่น ๆ มาแต่ต้น จึงยังฟังไม่ได้ว่าการจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิง และอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยในราคาสูงนั้นเกิดจากการที่จำเลยทั้งสี่ไม่ได้ตรวจสอบหรือสืบราคาเปรียบเทียบ นอกจากนี้ก็ไม่ปรากฏผลประโยชน์อย่างอื่นจากการกระทำดังกล่าวที่จะเชื่อมโยงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยทั้งสี่ว่าต้องการได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งตอบแทน พยานหลักฐานตามทางไต่สวนฟังไม่ได้ว่า จำเลยทั้งสี่มีเจตนาปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออำนวยแก่บริษัทสไตเออร์ฯ ให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับกรุงเทพมหานครแต่อย่างใด ทั้งคดีอาญาศาลต้องใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวงจะถือเอาข้อเท็จจริงในคดีก่อนมาผูกพันเทียบเคียงสำหรับการกระทำที่แตกต่างกัน โดยที่จำเลยทั้งสี่ไม่ได้เป็นคู่ความในคดีด้วยไม่ได้ คำพิพากษาที่โจทก์อ้างไม่ใช่ข้อบ่งชี้ว่าจำเลยทั้งสี่มีเจตนาในการกระทำความผิดร่วมกับพลตำรวจตรีอธิลักษณ์ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสี่มานั้น องค์คณะผู้พิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์เสียงข้างมากเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน