เมื่อวันจันทร์ที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องพิจารณาคดี ๒๐๕ ชั้น ๒ อาคารศาลฎีกา ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๗๒/๒๕๖๕ ในลักษณะการประชุมทางจอภาพ ซึ่งวินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่เกี่ยวกับกฎหมายยาเสพติดใหม่ว่า เมื่อตามกฎหมายเดิม มาตรา ๑๕ ประกอบมาตรา ๖๖ บัญญัติให้ลงโทษหนักขึ้นโดยถือเอาเพียงปริมาณของยาเสพติดเป็นสำคัญ แต่กฎหมายใหม่ มาตรา ๑๔๕ บัญญัติให้ลงโทษหนักขึ้นโดยถือเอาพฤติการณ์ในการกระทำความผิดและบทบาทหน้าที่ในการกระทำผิดเป็นสำคัญ ไม่ได้ถือเอาเพียงปริมาณดังเช่นกฎหมายเดิมอีกต่อไป แม้ปริมาณที่มากขึ้นอาจบ่งชี้ถึงพฤติการณ์ในการกระทำความผิดและบทบาทหน้าที่ได้ระดับหนึ่งก็ตาม เมื่อปริมาณยาเสพติดที่มากขึ้นอาจบ่งชี้ได้ถึงพฤติการณ์ในการกระทำความผิดและบทบาทหน้าที่อยู่ในตัว กฎหมายใหม่จึงไม่ได้ยกเลิกความผิดตามมาตรา ๖๖ วรรคสองและวรรคสาม ไปเสียทีเดียว แต่เมื่อกฎหมายใหม่ไม่ได้ให้ศาลลงโทษหนักขึ้นเพียงเพราะปริมาณยาเสพติดให้โทษดังเช่นในกฎหมายเดิม แต่ต้องมีพฤติการณ์และบทบาทหน้าที่ตามที่กฎหมายใหม่กำหนดไว้ด้วย จึงจะมีความผิดตามกฎหมายใหม่ มาตรา ๑๔๕ วรรคสองหรือวรรคสามได้ ดังนั้น ถ้าผู้กระทำผิดมีพฤติการณ์หรือบทบาทหน้าที่ตามกฎหมายใหม่ มาตรา ๑๔๕ วรรคสองหรือวรรคสาม ศาลย่อมมีอำนาจปรับบทความผิดตามมาตรา ๑๔๕ วรรคสองหรือวรรคสาม ได้ แต่ถ้ายาเสพติดให้โทษมีปริมาณถึงตามกฎหมายเดิม มาตรา ๖๖ วรรคสองหรือวรรคสาม แต่ผู้กระทำผิดไม่มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดและบทบาทหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายใหม่ มาตรา ๑๔๕ วรรคสองหรือวรรคสาม ศาลย่อมไม่อาจปรับบทความผิดตามมาตรา ๑๔๕ วรรคสองหรือวรรคสามได้ คงปรับทความผิดได้เพียงตามมาตรา ๑๔๕ วรรคหนึ่ง ส่วนการกำหนดโทษก็ต้องใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณทั้งกฎหมายเก่าและกฎหมายใหม่ไม่ว่าในทางใด ทั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓ คดีนี้ผู้ต้องหาในคดียาเสพติดคดีอื่นแจ้งเจ้าพนักงานตำรวจว่าซื้อเมทแอมเฟตามีนมาจากจำเลยที่ ๑ จึงมีการล่อซื้อและจับจำเลยทั้งสองได้ในรถกระบะพร้อมเมทแอมเฟตามีนของกลาง ๑,๐๐๐ เม็ด คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ ๒๒.๙๒๗ กรัม ที่จำเลยทั้งสองมาส่งตามที่มีการล่อซื้อ ในราคา ๖๐,๐๐๐ บาท พฤติการณ์น่าเชื่อว่าจำเลยทั้งสองจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้ผู้ต้องหาดังกล่าว และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่ผู้ล่อซื้อ จึงย่อมทำให้เกิดการแพร่กระจายแก่ผู้เสพหลายคนโดยสภาพ ถือเป็นการกระทำให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนแล้ว กรณีจึงต้องลงโทษจำเลยทั้งสองตามกฎหมายใหม่ มาตรา ๙๐, ๑๔๕ วรรคสอง (๒) ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๒ ปี ถึง ๒๐ ปี อันเป็นบทกฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลยทั้งสองมากกว่าตามกฎหมายเดิม ตามมาตรา ๖๖ วรรคสาม ที่มีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต สำหรับโทษปรับก็ต้องลงโทษจำเลยทั้งสองตามกฎหมายใหม่ มาตรา ๑๔๕ วรรคสอง (๒) ซึ่งมีระวางโทษปรับ ตั้งแต่ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ถึง ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท อันเป็นคุณกว่าตามกฎหมายเดิม มาตรา ๖๖ วรรคสาม ที่มีระวางโทษปรับตั้งแต่ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ถึง ๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา ๙๐, ๑๔๕ วรรคสอง (๒) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ จำคุกจำเลยทั้งสองคนละ ๑๕ ปี และปรับคนละ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๑ ให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ส่วนจำเลยที่ ๒ ลดโทษให้ ๑ ใน ๔ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยที่ ๑ มีกำหนด ๗ ปี ๖ เดือน และปรับ ๕๐๐,๐๐๐ บาท จำเลยที่ ๒ จำคุก ๑๑ ปี ๓ เดือน และปรับ ๗๕๐,๐๐๐ บาท
ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในลักษณะการประชุมทางจอภาพ ซึ่งวินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่เกี่ยวกับกฎหมายยาเสพติดใหม่

1 กุมภาพันธ์ 2565
เข้าดู 659 ครั้ง