เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องพิจารณาคดี ๒๐๕ ชั้น ๒ อาคารศาลฎีกา ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๓๕๕/๒๕๖๕ และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๒๓๕๖/๒๕๖๕ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ระบบ Google Meet ไปยังศาลอาญาและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค ๗ เกี่ยวกับคดีอันเป็นที่สนใจของประชาชน โดยนายเปรมชัย กรรณสูตร เป็นจำเลย โจทก์เข้าฟังคำพิพากษาที่ศาลชั้นต้นทั้งสองแห่ง ทนายจำเลยเข้าฟังคำพิพากษาที่ศาลฎีกา ส่วนจำเลยอยู่ที่เรือนจำอำเภอทองผาภูมิ โดยคดีแรกเป็นคดีความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ส่วนคดีที่สองเป็นคดีความผิดต่อเจ้าพนักงาน ทั้งนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้จำเลยถอนฎีกาและอ่านคำพิพากษาทั้งสองฉบับให้จำเลยฟัง และพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด โดยไม่รอการลงโทษแก่จำเลยทั้งสองคดีเนื่องจากจำเลยต้องโทษจำคุกในความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าและพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งไม่ใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และเป็นโทษจำคุกเกินหกเดือน จึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ และให้นับโทษจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.๑๑๔๔/๒๕๖๑ ของศาลอาญา
การอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในครั้งนี้เป็นการอ่านไปยังศาลชั้นต้นทั้งสองแห่งและเรือนจำในคราวเดียวกัน โดยทนายจำเลยเข้าฟังที่ศาลฎีกา หลังจากอ่านคำพิพากษาเสร็จแล้ว ทนายจำเลยขอคัดถ่ายคำพิพากษาได้ในวันเดียวกันโดยไม่ต้องเดินทางไปยังศาลชั้นต้นทั้งสองแห่ง อันเป็นการอำนวยความสะดวกแก่คู่ความ