ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีอาญาให้จำเลยซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำฟัง ผ่านการถ่ายทอดภาพและเสียงในลักษณะการประชุมทางจอภาพ (Video Conference)

เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ เวลา ๙.๓๐ นาฬิกา ณ ห้องพิจารณาคดี ๒ (ห้อง ๒๐๕) ชั้น ๒ อาคารศาลฎีกา
ผู้พิพากษาศาลฎีกาเจ้าของสำนวนได้ออกนั่งอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีอาญาความผิดตามพระราชบัญญัติ
ยาเสพติดให้โทษ ให้จำเลยซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวางฟัง ตามระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลฎีกาในคดีอาญาที่ศาลฎีกา โดยจัดให้มีการถ่ายทอดภาพและเสียงในลักษณะการประชุมทางจอภาพ พ.ศ.๒๕๖๓ โดยอ่านผ่านการถ่ายทอดภาพและเสียงในลักษณะการประชุมทางจอภาพ (Video.Conference) มีเจ้าหน้าที่ของเรือนจำเป็นสักขีพยานยืนยันตัวตนจำเลยตลอดการอ่าน
คำพิพากษา นับเป็นคดีแรกที่มีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้จำเลยซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำฟัง ซึ่งศาลฎีกาได้มี
คำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องโจทก์ และมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นออกหมายปล่อยตัวจำเลยไปในวันเดียวกัน ต่อมาใน
เวลา ๑๐.๓๐ นาฬิกา มีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีอาญาของศาลจังหวัดนครสวรรค์ ในความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ เป็นคดีที่ ๒ ซึ่งผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนและองค์คณะติดภารกิจ ผู้พิพากษาศาลฎีกา
ที่ปฏิบัติหน้าที่เวรคำสั่งคำร้องในวันดังกล่าวจึงเป็นผู้อ่านคำพิพากษาแทน โดยเบิกตัวจำเลยที่ ๒ ที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางพิษณุโลกมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒ และมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นออกหมายปล่อยตัวจำเลยที่ ๒ ไปในวันเดียวกัน