ศาลฎีกาให้การต้อนรับคณะครูและนักเรียน โครงการ “ค่ายนิติ – รัฐศาสตร์และทัศนศึกษาสำหรับนักเรียนห้องเรียนพิเศษนิติ – รัฐศาสตร์” โรงเรียนอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ ในโอกาสมาเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน ณ ศาลฎีกา

portfolio
21 ธันวาคม 2566
เข้าดู 48 ครั้ง

          วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๖) เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ นาฬิกา ศาลฎีกาให้การต้อนรับคณะครูและนักเรียนจากโครงการ “ค่ายนิติ – รัฐศาสตร์และทัศนศึกษาสำหรับนักเรียนห้องเรียนพิเศษนิติ – รัฐศาสตร์” โรงเรียนอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖ รวม ๔๑ คน ในโอกาสที่เข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน 
ณ ศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน

          เมื่อคณะเดินทางมาถึงได้สักการะพระอนุสาวรีย์พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ และถ่ายภาพร่วมกันบริเวณหน้าอาคารศาลยุติธรรม ในการนี้ นายกิตติพงษ์ ศิริโรจน์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองประธานศาลฎีกา ได้กล่าวต้อนรับและแนะนำภารกิจที่สำคัญของศาลฎีกา 

          เริ่มการศึกษาดูงานโดยคณะฯ เข้ารับฟังการบรรยาย ณ ห้องพิจารณาคดี ๒๐๘ 

          -  เรื่อง “การเข้าสู่ตำแหน่ง และการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา” โดย นายณวพร รัตนวราหะ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักประธานศาลฎีกา ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

         -  เรื่อง “ศาลยุติธรรมในประเทศไทย” โดย นางรัสรินทร์ อริยพัชญ์พล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา และนางสาวลดาวัลย์ อริยสิทธิ์ ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา และ

         - เรื่อง “ศาลฎีกาไทย : อำนาจ หน้าที่ การปฏิบัติงานของแผนกคดีพิเศษ” โดย นางธัญญลักษณ์ เบ็ญจะมโน เตชะวุฒิพันธุ์ และนายกฤติน ศรีรัฐ ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

         จากนั้นได้นำคณะฯ ศึกษาดูงานและเยี่ยมชมยอดปราสาทยุติธรรมและศาลฎีกานิทรรศน์ เพื่อทราบประวัติความเป็นมาของศาลยุติธรรมในประเทศไทย เยี่ยมชมทัศนียภาพสวนกลางอาคารศาลฎีกาที่มีความโดดเด่นและสวยงาม

         การศึกษาดูงานครั้งนี้ ทำให้คณะครูและนักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าที่ของผู้พิพากษา ระบบศาลยุติธรรม ตลอดจนความเป็นมาและภารกิจของศาลฎีกา  ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายประธานศาลฎีกาที่ว่า “ที่พึ่ง เที่ยงธรรม เท่าเทียม ทันโลก”