วันศุกร์ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๖.๐๐ นาฬิกา ศาลฎีกาให้การต้อนรับคณะนักศึกษาหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน รุ่นที่ ๓๑ และรุ่นที่ ๓๒ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันวิทยาการตลาดทุน จำนวน ๗๐ คน ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน ณ ศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน
ในการนี้ นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา ได้ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ และมอบของที่ระลึกให้แก่คณะฯ โดย นายสาคร ตั้งวรรณวิบูลย์ รองประธานศาลฎีกา และ นายวรวุฒิ ทวาทศิน ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ร่วมให้การต้อนรับ และร่วมบรรยายพิเศษด้วย
เริ่มการศึกษาดูงานโดย คณะฯ เยี่ยมชมอาคารศาลยุติธรรม ห้องประชุม ก.ต. และสักการะพระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ โดย นายพรภัทร์ ตันติกุลานันท์ รองเลขานุการศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา แนะนำประวัติความเป็นมาของอาคารศาลยุติธรรม อาคารศาลฎีกา และความสำคัญของห้องประชุม ก.ต.
จากนั้นคณะฯ เข้าฟังการบรรยาย และเยี่ยมชมยอดปราสาทยุติธรรมและศึกษาดูงานศาลฎีกานิทรรศน์เพื่อทราบประวัติความเป็นมาของศาลยุติธรรมในประเทศไทย และกระบวนการทางศาล โดย นางสาวสุธาทิพ ยุทธโยธิน ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา และ นายปิยบดี ชีวิตโสภณ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดธัญบุรี ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา บรรยายและแนะนำประวัติของยอดปราสาทยุติธรรมและศาลฎีกานิทรรศน์ ณ โถงทิศเหนือ ชั้น ๒ อาคารศาลฎีกา และนำคณะ เยี่ยมชมทัศนียภาพบริเวณสวนหย่อมศาลฎีกา ที่มีความโดดเด่นและสวยงาม
ต่อมาคณะฯ เยี่ยมชมห้องพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ห้อง ๒๑๘) พร้อมรับชมวีดิทัศน์ และถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกัน และเยี่ยมชมห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกา โดย นายวรวุฒิ ทวาทศิน บรรยายถึงการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และ นายสาคร ตั้งวรรณวิบูลย์ กล่าวแนะนำประวัติความเป็นมา ความสำคัญของห้องประชุมใหญ่ ขั้นตอนการทำงาน และการพิจารณาคดีในศาลฎีกา
การศึกษาดูงานครั้งนี้ ทำให้คณะศึกษาดูงานได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบศาลยุติธรรม ตลอดจนความเป็นมาและภารกิจของศาลฎีกา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายประธานศาลฎีกาที่ว่า “ที่พึ่ง เที่ยงธรรม เท่าเทียม ทันโลก”
