วันศุกร์ที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๓๐ - ๑๕.๓๐ นาฬิกา คณะผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร “ผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง” รุ่นที่ ๒๘ ซึ่งจัดโดยสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม จำนวน ๑๐๐ คน ศึกษาดูงาน ณ ศาลฎีกา
ในการนี้ นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา ให้เกียรติกล่าวต้อนรับพร้อมทั้งปาฐกถาพิเศษและมอบของที่ระลึกแก่คณะฯ
เมื่อคณะฯ เดินทางมาถึง นายกิตติพงษ์ ศิริโรจน์ รองประธานศาลฎีกา ให้เกียรติต้อนรับ และนำคณะฯ วางพานพุ่มถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ และถ่ายภาพร่วมกันบริเวณหน้าอาคารศาลยุติธรรม
ต่อมาคณะฯ เยี่ยมชมห้องพระรูปหุ่นพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ และ ห้องประชุมราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ณ บริเวณชั้น ๓ อาคารศาลยุติธรรม
เยี่ยมชมห้องพิจารณาคดี ๒๐๘ และ รับฟังการบรรยาย หัวข้อ “การพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” โดย นายอภิชาติ คงชาตรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และคณะ
เยี่ยมชมยอดปราสาทยุติธรรม และ ศึกษาดูงานศาลฎีกานิทรรศน์ พร้อมรับฟังการบรรยาย เพื่อทราบประวัติความเป็นมาของศาลยุติธรรมในประเทศไทย และกระบวนการทางศาล โดย นางสาวสุธาทิพ ยุทธโยธิน ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา และ นายปิยบดี ชีวิตโสภณผู้พิพากษาศาลจังหวัดธัญบุรี ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา ณ โถงทิศเหนือ ชั้น ๒ อาคารศาลฎีกา เยี่ยมชมทัศนียภาพสวนกลางอาคารศาลฎีกา ที่มีความโดดเด่นและสวยงาม และถ่ายภาพร่วมกัน
เยี่ยมชมห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกา ณ บริเวณชั้น ๓ อาคารศาลฎีกา และ รับฟังการบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ความสำคัญของห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกา อำนาจหน้าที่ของศาลฎีกา และกระบวนการจัดทำคำพิพากษาศาลฎีกา” โดย นายกฤติน ศรีรัฐ และ นางนันทนัช เครืองาม ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกาจากนั้นเป็นการสรุปผลการศึกษาดูงาน และเดินทางกลับ
การศึกษาดูงานในครั้งนี้ ทำให้ผู้ศึกษาดูงานได้รับความรู้เกี่ยวกับระบบศาลยุติธรรม อำนาจหน้าที่ตลอดจนความเป็นมาและภารกิจของศาลฎีกา อันเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์และวิสัยทัศน์ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายประธานศาลฎีกาที่ว่า “ที่พึ่ง เที่ยงธรรม เท่าเทียม ทันโลก”
