วันศุกร์ที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ นาฬิกา นางสาวนัยนาวุธ จันทร์จำเริญ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ประธานกรรมการอำนวยการศึกษาอบรมผู้ช่วยผู้พิพากษา รุ่นที่ ๗๙ นำคณะผู้เข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตร “ผู้ช่วยผู้พิพากษา” รุ่นที่ ๗๙ จำนวน ๕๕ คน ผู้สังเกตการณ์ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง รวมจำนวน ๘๑ คน ศึกษาดูงาน ณ ศาลฎีกา
ในการนี้ นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา ได้ให้เกียรติถ่ายภาพร่วมกับคณะฯ กล่าวต้อนรับ และมอบของที่ระลึก ณ ห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกา ชั้น ๓
เมื่อคณะฯ เดินทางมาถึง นายกิตติพงษ์ ศิริโรจน์ รองประธานศาลฎีกา พร้อมคณะทำงาน ให้การต้อนรับคณะฯ พร้อมนำคณะฯ สักการะพระอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ และถ่ายภาพร่วมกันบริเวณหน้าอาคารศาลยุติธรรม
จากนั้น นายกิตติพงษ์ ศิริโรจน์ รองประธานศาลฎีกา กล่าวต้อนรับ และแนะนำการเตรียมความพร้อมเข้าฟังการพิจารณาคดี ณ โถงบุษบก
คณะฯ สังเกตการณ์พิจารณาคดีและศึกษากระบวนการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา ณ ห้องพิจารณาคดี ๒๑๘
รับฟังการบรรยายพิเศษ ณ ห้องพิจารณาคดี ๒๐๕ หัวข้อ “การพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” โดย นางธัญญลักษณ์ เบ็ญจะมโน เตชะวุฒิพันธุ์ ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา และ นางสาวนิภาพัฒน์ วงศ์วัฒนะเดช ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
เยี่ยมชมยอดปราสาทยุติธรรมและศาลฎีกานิทรรศน์ พร้อมรับฟังการบรรยายเพื่อทราบประวัติความเป็นมาของศาลยุติธรรมในประเทศไทย และกระบวนการทางศาล ณ บริเวณโถงชั้น ๒ อาคารศาลฎีกา
เยี่ยมชมห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกา ชั้น ๓ และ รับฟังการบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ความสำคัญของห้องประชุมใหญ่ศาลฎีกา อำนาจหน้าที่ของศาลฎีกาและกระบวนการจัดทำคำพิพากษาศาลฎีกา” โดย นางรัสรินทร์ อริยพัชญ์พล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา และ นางสาวลดาวัลย์ อริยสิทธิ์ ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
การศึกษาดูงานครั้งนี้ ทำให้คณะฯ ได้รับความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องทางด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ทั้งเข้าใจถึงบทบาทและหน้าที่ของศาลยุติธรรมในฐานะองค์กรหลักของประเทศที่ใช้อำนาจตุลาการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่คนในชาติโดยไม่เลือกปฏิบัติ ภายใต้หลักนิติธรรม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายประธานศาลฎีกาที่ว่า “ที่พึ่ง เที่ยงธรรม เท่าเทียม ทันโลก”