วันนี้ (๓๐ มกราคม ๒๕๖๘) เวลา 10 นาฬิกา อัยการสูงสุด โจทก์ ยื่นฟ้อง
นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว หรือกรธัช ผ่องแผ้วนภ จำเลย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ ๔ จังหวัดสงขลา สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ต่อศาลฎีกา
แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อม.3/๒๕๖๘ โดยกล่าวหาว่า เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๖ เวลากลางวันและกลางคืนหลังเที่ยงต่อเนื่องกัน
ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาวาระร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลัง
กู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. ... ซึ่งจำเลยลงชื่อ
เข้าร่วมประชุม จำเลยฝากหรือมอบบัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติของตนไว้
กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนอื่น เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนนั้นใช้บัตรแสดงตน
ของจำเลยแสดงตนและลงมติแทน โดยในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ ๑๗.๓๐ นาฬิกา
จำเลยลงทะเบียนและยืนยันตัวตนขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง เพื่อโดยสารเครื่องบินไปอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีระยะเวลาเดินทางตั้งแต่เวลา ๑๘.๓๐ นาฬิกา ถึงเวลา
๑๙.๔๕ นาฬิกา ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว กลับปรากฏชื่อของจำเลยร่วมลงคะแนน
ในร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวในช่วงเวลา ๑๙.๑๐ นาฬิกา ถึงเวลา ๒๐.๕๓ นาฬิกา การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาทุจริตแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองหรือผู้อื่น
หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการออกเสียงลงคะแนนแทนกัน ส่งผลให้การออกเสียงลงคะแนนในการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่เป็นตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงของผู้แทนปวงชนชาวไทยและ
ถือเป็นมติที่มิชอบ อันเป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งกฎหมายและระเบียบ
ที่เกี่ยวข้อง เป็นเหตุให้สภาผู้แทนราษฎรและปวงชนชาวไทยผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยได้รับความเสียหาย อันเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือ
ละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๒๓/๑ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา 172, ๑๙๒
จำเลยมาศาล และได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
ทั้งนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะนัดฟังคำสั่งเกี่ยวกับการประทับรับฟ้องตามกฎหมายต่อไป./