ข้อสังเกตคดียาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 100/2

 

ข้อสังเกตคดียาเสพติดให้โทษตามมาตรา ๑๐๐/๒

 

 

             พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๐๐/๒  บัญญัติว่า ถ้าศาลเห็นว่าผู้กระทำความผิดผู้ใด ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ      ยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ  หรือพนักงานสอบสวน ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นก็ได้  มีข้อสังเกตตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกา ในเรื่อง “ การให้ข้อมูลที่สำคัญฯ ” ที่น่าสนใจ ดังนี้           

           คำพิพากษาศาลฎีกาที่  ๙๘๗/๒๕๕๑      จำเลยที่ ๒ มีเมทแอมเฟตามีนของกลาง ๒,๐๐๐ เม็ด  ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อ  หลังจากถูกจับกุมแล้ว จำเลยที่ ๒ ให้การว่ารับเมทแอมแฟตามีนของกลางมาจาก ว. หรือ ม. และร่วมมือกับเจ้าพนักงานตำรวจจนสามารถขยายผลจับกุม ว. พร้อมด้วยเมทแอมเฟตามีนของกลางอีก ๗๐ เม็ด นับว่าจำเลยที่ ๒ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ เห็นสมควรลงโทษจำเลยที่ ๒  น้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษพ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๐๐/๒

            คำพิพากษาศาลฎีกาที่   ๗๑๔๙/๒๕๕๘ ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๐๐/๒ ผู้กระทำความผิดจะได้รับประโยชน์จากบทบัญญัติดังกล่าวจะต้องประกอบด้วยเหตุสองประการ คือ ผู้กระทำความผิดได้ให้ข้อมูลที่สำคัญ และข้อมูลนั้นจะต้องเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ ลำพังเพียงการให้ข้อมูลแต่ไม่เป็นประโยชน์ หรือเป็นประโยชน์ธรรมดา หรือไม่ใช่ข้อมูลสำคัญ  ผู้ให้ข้อมูลหาได้รับประโยชน์ไม่  การที่จำเลยที่ ๑ เพียงแต่ติดต่อผู้ที่จำหน่ายยาเสพติดให้แก่จำเลยที่ ๑ แต่ปรากฏว่าเจ้าพนักงานตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้ที่จำเลยที่ ๑ อ้างว่าขายยาเสพติดให้ตนได้  จึงยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะฟังว่าจำเลยที่ ๑ ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ

            คำพิพากษาศาลฎีกาที่  ๘๙๒๙/๒๕๖๑ การที่จำเลยถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมได้พร้อมเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวนหนึ่งที่บริเวณลานจอดรถ และนำไปตรวจค้นยึดได้ที่ในห้องพักอีกจำนวนหนึ่งเป็นการที่เจ้าพนักงานตำรวจไปตรวจค้นที่พักพบของกลางตามปกติในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการกระทำความผิดลักษณะนี้อยู่แล้ว ไม่ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษในอันที่จะให้ลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๐๐/๒ ได้   

             ดังนั้น     การที่ผู้กระทำความผิดจะได้รับประโยชน์จากมาตรา ๑๐๐/๒ จะต้องทำความเข้าใจหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้

 

 

ผู้เขียน  นายบริพัตร์ โรจน์บัวทอง  ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ผู้ตรวจ  นายอนุรักษ์ บุญนิธี  ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

 

 

 

 

 

 

  

 

 

   

            

 

  

                        

                

 

                                                                                                                                         

 

  

 

 

   

            

 

  

                        

                

 

                                                


เผยแพร่โดย

แผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกา

เข้าดู
แชร์บทความนี้

บทความสาระความรู้ล่าสุด
แนวทางการแก้ไขปัญหาการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ตอนที่ 1)

ทำความรู้จัก "Incoterms 2020" ตอนที่ 1

แนวทางการปรับใช้หลักกฎหมายเรื่อง การเรียกค่าทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ มาตรา ๑๕๒๓ วรรคสอง ที่แก้ไขใหม่

“ข้อพิจารณาในการรอการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ : ศึกษาเงื่อนไขประวัติการรับโทษจากคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ อม ๑๙/๒๕๖๘”
ตัวการในคดีความผิดเกี่ยวกับป่าไม้