คดีที่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะให้คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด ถือว่าเป็นกรณีที่ไม่อาจขออนุญาตฎีกาได้

 

          คดีที่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะให้คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลชั้นต้นหรือ
ศาลอุทธรณ์เป็นที่สุด เช่น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ร้องวางเงินหรือหาประกันต่อศาล เพื่อเป็นประกันการชำระ
ค่าสินไหมทดแทนแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๕ วรรคห้า (ครพ. ๒๑๑/๒๕๖๒) คำสั่งศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๕๖/๑ วรรคสี่ (ครพ. ๑๑๖/๒๕๖๑ ประชุมใหญ่) คำสั่งของศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับ
การปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์หรือรับอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓๖ วรรคหนึ่ง (ครพ. ๕๐๕๔/๒๕๖๑) หรือกรณีศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ยกคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ของจำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๙ เบญจ วรรคสี่ 
(ครพ. ๕๖๘๙/๒๕๖๒) ถือว่าเป็นกรณีที่ไม่อาจขออนุญาตฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
มาตรา ๒๔๗ ได้

 

                                                                ผู้เขียน   นางทิพวรรณ  หัตถะปนิตร์  ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ผู้ตรวจ  นายเอื้อน  ขุนแก้ว  ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา


เผยแพร่โดย

แผนกคดีคำสั่งคำร้องและขออนุญาตฎีกา

เข้าดู
แชร์บทความนี้

บทความสาระความรู้ล่าสุด
การฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีรถชนที่มีการฟ้องผู้กระทำความผิดเป็นคดีอาญาด้วย

ในคดีละเมิดอำนาจศาล ศาลชั้นต้นลงโทษผู้ถูกกล่าวหาฐานละเมิดอำนาจศาลให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ถูกกล่าวหาฎีกาได้หรือไม่

กรณีที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้กระทำละเมิด ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยที่ 2 แต่เป็นลูกจ้างบริษัท จ. โจทก์จึงยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 แล้วขอให้ศาลหมายเรียกบริษัท จ. นายจ้างที่แท้จริง เข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีได้หรือไม่

การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่
การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่