- ๑. โจทก์ฟ้องให้รับผิดตามสัญญาค้ำประกันหนี้กู้เบิกเงินเกินบัญชี ผู้ค้ำประกันต่อสู้ว่าค้ำประกันหนี้เฉพาะวงเงินไม่เกินจำนวนที่ระบุไว้ในสัญญาค้ำประกัน จึงไม่ต้องรับผิดเกินกว่าวงเงินค้ำประกัน มิได้กล่าวอ้างว่ามิได้มีเจตนาค้ำประกันหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งเป็นสัญญาแยกต่างหากจากสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีด้วย ผู้ค้ำประกันจะฎีกาว่ามิได้มีเจตนาค้ำประกันหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินไม่ได้ แม้จะนำสืบในข้อนี้แต่เมื่อไม่ได้ต่อสู้เป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ก็เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลล่างทั้งสอง ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ.มาตรา ๒๔๙ วรรคหนึ่ง (๔๔๓๘/๒๕๕๖)
- ๒. สัญญาค้ำประกันระบุวงเงินไว้ มีผลให้ผู้ค้ำประกันรับผิดเฉพาะต้นเงินไม่เกินจำนวนที่ระบุไว้ในสัญญาค้ำประกันกับดอกเบี้ยของต้นเงินดังกล่าวเท่านั้น (ฎ.๗๘๖/๒๕๔๗)
- ๓. กรณีผู้ค้ำประกันคนเดียวทำสัญญาค้ำประกันและทำสัญญาจำนองด้วยในวันเดียวกัน สัญญาจำนองเป็นเพียงการให้หลักประกันเพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญาค้ำประกันเท่านั้น ผู้ค้ำประกันยังคงรับผิดเท่ากับวงเงินที่ระบุในสัญญาค้ำประกัน ไม่ใช่เป็นการให้หลักประกันใหม่โดยไม่จำกัดจำนวน (ฎ.๗๘๖/๒๕๔๗, ๖๗๐๔/๒๕๕๖)
- ๔. หากศาลล่างกำหนดให้ผู้ค้ำประกันรับผิดเกินวงเงินที่ระบุในสัญญา เป็นการพิพากษาให้รับผิดมากกว่าที่จะต้องรับผิดตามกฎหมาย และเป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้คู่ความมิได้ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.พ.มาตรา ๑๔๒ (๕) (ฎ.๗๐๓๒/๒๕๔๕)
- ๕. การกำหนดค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์ในกรณีลูกหนี้ชั้นต้นและผู้ค้ำประกันรับผิดไม่เท่ากันเพื่อความเป็นธรรมจะต้องพิจารณาจากจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดีจำเลยแต่ละคนด้วย(ฎ.๑๙๓๐/๒๕๒๖)
- ๖. กรณีลูกหนี้ชั้นต้นทำสัญญาหลายฉบับและสัญญาค้ำประกันระบุวงเงินความรับผิดต่ำกว่าต้นเงินทั้งหมดที่ลูกหนี้ชั้นต้นต้องรับผิด ถือเป็นกรณีที่ลูกหนี้ต้องผูกพันต่อโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ในอันที่จะกระทำการเพื่อชำระหนี้เป็นการอย่างเดียวกันโดยมูลหนี้หลายราย โดยการชำระหนี้ของผู้ค้ำประกันไม่เต็มจำนวนหนี้ทุกรายตาม ป.พ.พ. มาตรา ๓๒๘ วรรคหนึ่ง ต้องกำหนดให้การชำระหนี้ของผู้ค้ำประกันเป็นไปตามมาตรา ๓๒๘ วรรคหนึ่งและวรรคสองด้วย (ฎ.๓๙๒/๒๕๕๐, ๔๔๓๘/๒๕๕๖)
- ๗. สัญญาจำนองกำหนดให้ผู้จำนองต้องรับผิดสำหรับต้นเงินที่เกินวงเงินตามสัญญาจำนองไม่ว่าเพราะเหตุใดๆ เป็นข้อตกลงที่ทำให้สัญญาจำนองไม่มีจำนวนเงินที่แน่นอนหรือไม่มีจำนวนขั้นสูงสุดที่ได้เอาทรัพย์จำนองตราไว้เป็นประกันเป็นการฝ่าฝืนต่อ ป.พ.พ.มาตรา ๗๐๘ ตกเป็นโมฆะ (ฎ.๑๙๐๑/๒๕๔๒)
- ๘. ผู้จำนองตกลงจำนองที่ดินเป็นประกันหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน แม้จะระบุว่าจำนองเป็นประกันหนี้ซึ่งผู้จำนองมีต่อผู้รับจำนองในเวลานี้หรือที่จะมีขึ้นใหม่ในภายหน้า แต่เมื่อหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงินซึ่งเป็นหนี้ประธานระงับสิ้นไปด้วยการชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว สัญญาจำนองซึ่งเป็นหนี้อุปกรณ์ย่อมระงับไปด้วยตาม ป.พ.พ.มาตรา ๗๔๔ (๑) แม้ต่อมามีการทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีกันแต่สัญญาดังกล่าวมิได้ระบุว่ามีการจำนองที่ดินเป็นประกันหนี้ การตีความถึงเจตนาของคู่สัญญาในกรณีมีข้อสงสัยต้องตีความในทางที่เป็นคุณแก่ฝ่ายซึ่งจะเป็นผู้ต้องเสียในมูลหนี้นั้นตาม ป.พ.พ.มาตรา ๑๑ จึงฟังว่าคู่สัญญามิได้ตกลงให้นำสัญญาจำนองมาเป็นประกันหนี้เบิกเงินเกินบัญชี หรือกรณีไปทำสัญญาฉบับอื่นเพิ่มเติมเช่นลูกหนี้ไปค้ำประกันบุคคลอื่นต่อไปอีก สัญญาจำนองก็ไม่ครอบคลุมถึง (ฎ.๑๕๙๒/๒๕๔๕, ฎ.๕๑๕๑/๒๕๔๓)
- ๙. แต่ถ้ามีการระบุวงเงินจำนองไว้แล้วกู้ยืมเงินกันหลายครั้งแต่ละครั้งยังไม่เต็มวงเงินจำนอง ตีความเจตนาคู่สัญญาว่าประสงค์จะจำนองเป็นประกันหนี้ทุกราย แม้จะทำสัญญากับธนาคารในเครือโจทก์หลายสาขาก็ตามถือว่าสัญญาจำนองประกันหนี้ดังกล่าวด้วย (ฎ.๕๓๘๔/๒๕๔๘, ๒๒๐๗/๒๕๓๑, ฎ.๖๒๒๑/๒๕๕๐, ๒๗๙๑/๒๕๔๖)
- ๑๐. ข้อตกลงต่อท้ายสัญญาจำนองที่ระบุว่าหากบังคับจำนองได้เงินไม่พอชำระหนี้ จำเลยที่ ๒ ยอมรับผิดใช้เงินส่วนที่ขาดจำนวนให้แก่โจทก์จนครบถ้วนซึ่งแตกต่างจาก ป.พ.พ. มาตรา ๗๓๓ บทบัญญัติดังกล่าวมิใช่บทบัญญัติแห่งกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชานชน คู่กรณีอาจตกลงกันเป็นประการอื่นพิเศษนอกเหนือจากที่มาตราดังกล่าวบัญญัติไว้ก็ย่อมกระทำได้ (ฎ.๗๓๙๑/๒๕๔๗ ตามแนวแผนกไม่ต้องให้เหตุผลว่า “ป.พ.พ.มาตรา ๗๓๓ เป็นเพียงบทสันนิษฐานถึงเจตนาของคู่กรณี” เพราะน่าจะเป็นถ้อยคำที่เขียนเกินเลยไป)
- ๑๑. กรณีโจทก์ขอแก้ไขคำพิพากษาในส่วนที่เกี่ยวกับเลขโฉนดที่ดินที่ต้องบังคับจำนองเนื่องจากเจ้าหน้าที่โจทก์พิมพ์เลขโฉนดที่ดินผิดพลาด โดยโจทก์ได้แนบเอกสารสำเนาโฉนดที่ดินระบุเลขที่ถูกต้องไว้ด้วยซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง ศาลย่อมมีอำนาจบังคับจำนองแก่ที่ดินตามโฉนดเลขที่ที่ถูกต้องได้โดยไม่เป็นการบังคับนอกเหนือไปจากคำพิพากษาและไม่เป็นการแก้ไขคำพิพากษาในส่วนที่เป็นสาระสำคัญอันเป็นผลทำให้คำพิพากษาเปลี่ยนแปลงไป เพราะเป็นเพียงการเพิ่มเติมในรายละเอียดให้ชัดเจนถูกต้องตรงตามความเป็นจริง (ฎ.๖๑๓๔/๒๕๔๘)
- ภาพประกอบจาก
- https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/852273
- https://www.thairath.co.th/news/business/realestate/1696191
แนวคำพิพากษาคดีบัญชีเดินสะพัด ค้ำประกัน จำนอง กรณีความรับผิดของผู้ค้ำประกันและผู้จำนอง
บทความโดย
วันที่เผยแพร่
07/07/2565

บทความสาระความรู้ล่าสุด
การฟ้องเรียกค่าเสียหายคดีรถชนที่มีการฟ้องผู้กระทำความผิดเป็นคดีอาญาด้วย
18/08/2568
ในคดีละเมิดอำนาจศาล ศาลชั้นต้นลงโทษผู้ถูกกล่าวหาฐานละเมิดอำนาจศาลให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ถูกกล่าวหาฎีกาได้หรือไม่
18/08/2568
กรณีที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้กระทำละเมิด ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ไม่ใช่ลูกจ้างจำเลยที่ 2 แต่เป็นลูกจ้างบริษัท จ. โจทก์จึงยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยที่ 2 แล้วขอให้ศาลหมายเรียกบริษัท จ. นายจ้างที่แท้จริง เข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีได้หรือไม่
23/07/2568
การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่
13/06/2568
การฎีกาคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นในปัญหาข้อเท็จจริง อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 หรือไม่
29/05/2568