ดร.กนก จุลมนต์
ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
เมื่อลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ที่ถึงกำหนดชำระ ระบบกฎหมายส่วนใหญ่ในโลกจะมีมาตรการทางกฎหมายที่จัดการกับกรณีดังกล่าวเพื่อให้เกิดความพึงพอใจร่วมกันของเจ้าหนี้ทั้งหลายที่มีสิทธิเรียกร้องจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ ระบบกฎหมายดังกล่าวจำเป็นต้องพิจารณาถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสีย อันได้แก่ ลูกหนี้ เจ้าของและผู้บริหารของลูกหนี้ เจ้าหนี้ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าหนี้มีประกัน รวมทั้งเจ้าหนี้ภาษีอากร และเจ้าหนี้ที่เป็นหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ลูกจ้างของลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันหนี้ของลูกหนี้ ผู้จัดจำหน่ายสินค้าและบริการแก่ลูกหนี้ ตลอดจนสถาบันและองค์กรทางด้านกฎหมาย การพาณิชย์ และสังคม ระบบกฎหมายจะต้องพยายามทำให้ได้ดุล ไม่เฉพาะระหว่างผู้มีส่วนได้เสียแต่ละคน แต่ยังรวมถึงผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายทางด้านสังคม การเมือง และด้านอื่น ๆ อันส่งผลกระทบต่อเป้าหมายทางด้านเศรษฐศาสตร์และทางกฎหมายของกระบวนพิจารณาคดีล้มละลาย
รูปแบบของกฎหมายล้มละลายในการแก้ไขปัญหาทางด้านการเงินของลูกหนี้อาจจะอยู่ในรูปของกระบวนการที่ "เป็นทางการ" และ "ไม่เป็นทางการ " กระบวนการล้มละลาย "ที่เป็นทางการ" คือกระบวนพิจารณาที่เริ่มต้นตามกฎหมายล้มละลายและถูกกำกับโดยกฎหมายดังกล่าว โดยทั่วไปแล้ว กระบวนพิจารณาที่ "เป็นทางการ" จะประกอบด้วยกระบวนการชำระบัญชี (Liquidation) และกระบวนการฟื้นฟูกิจการ (Reorganization) ส่วนกระบวนการล้มละลายที่ "ไม่เป็นทางการ" จะไม่ได้ถูกควบคุมโดยกฎหมายล้มละลาย และโดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับการเจรจาต่อรองด้วยความสมัครใจระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน รูปแบบการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการนี้ได้รับการพัฒนาโดยภาคการธนาคารและทางพาณิชย์และจะก่อให้เกิดการปรับโครงสร้างบางส่วนของลูกหนี้ แม้ว่ากระบวนการเหล่านี้จะไม่ได้กำกับโดยกฎหมายล้มละลาย แต่การมีประสิทธิภาพหรือความสำเร็จของการเจรจาต่อรองนี้ก็ขึ้นอยู่กับความมีอยู่ของกฎหมายล้มละลาย ซึ่งอาจจะส่งผลทางอ้อมหรือมีผลในทางเชื้อเชิญให้มีการเจร้จาปรับโครงสร้างหนี้กันให้สำเร็จ
แม้ว่าแนวทางในการบัญญัติกฎหมายล้มละลายในแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างกัน แต่หลายประเทศก็มีความเห็นพ้องกันว่าระบบกฎหมายล้มละลายที่มีประสิทธิภาพควรที่จะมุ่งเน้นตามวัตถุประสงค์ต่อไปนี้ ในลักษณะที่ก่อให้เกิดสมดุล เพื่อให้เป็นส่วนเติมเต็มและสอดคล้องกับค่านิยมทางสังคมของประเทศนั้น ๆ
1. การก่อให้เกิดความแน่นอนในตลาดเพื่อส่งเสริมความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (Provision of certainty in the market to promote economic stability and growth)
กฎหมายล้มละลายและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการล้มละลายมีความสำคัญยิ่งในการทำให้ประเทศหนึ่ง ได้รับประโยชน์และหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในการหลอมรวมระบบการเงินในประเทศกับระบบการเงินระหว่างประเทศ กฎหมายและองค์กรที่เกี่ยวข้องดังกล่าวควรจะส่งเสริมการปรับโครงสร้างของธุรกิจที่ยังมีโอกาสในการฟื้นฟูกิจการ การปิดกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ การโอนสินทรัพย์ของธุรกิจที่ประสบความล้มเหลว การอำนวยความสะดวกในการให้สินเชื่อสำหรับธุรกิจที่จัดตั้งใหม่การปรับโครงสร้างหนี้ของธุรกิจ และการก่อให้เกิดการประเมินความเสี่ยง หากมีการให้สินเชื่อทั้งภายในและระหว่างประเทศ
2. การทำให้ทรัพย์สินของลูกหนี้มีมูลค่ามากที่สุด (Maximization of value of assets) หากทรัพย์สินในคดีมีมูลค่ามากขึ้นเท่าไร ก็จะทำให้สัดส่วนในการได้รับชำระหนี้คืนแก่เจ้าหนี้เพิ่มขึ้นเพียงนั้น ตัวอย่างกระบวนพิจารณาที่จะทำให้กองทรัพย์สินมีมูลค่ามากขึ้น เช่น การเพิกถอนนิติกรรมที่เป็นการฉ้อฉล การเพิกถอนนิติกรรมที่เป็นการให้เปรียบ เป็นต้น เจ้าหนี้ทุกรายของลูกหนี้จะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ทรัพย์สินที่ถูกเพิกถอนจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของเจ้าหนี้ทุกราย อย่างไรก็ตาม การเพิกถอนนิติกรรมเหล่านี้อาจก่อให้เกิดความไม่แน่นอนของนิติสัมพันธ์ที่ลูกหนี้ได้กระทำขึ้นกับบุคคลภายนอก รวมทั้งเจ้าหนี้ของตน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในการลงทุนของบุคคลภายนอกหรือเจ้าหนี้ได้ ซึ่งก่อให้เกิดการตึงเครียดระหว่างวัตถุประสงค์ที่มุ่งแตกต่างกันของระบบกฎหมายล้มละลาย นอกจากนั้น จะต้องมีการทำให้ได้ดุลระหว่างการชำระบัญชีอย่างรวดเร็วกับความพยายามในการยืดเวลาออกไปเพื่อฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดมูลค่าที่มากกว่าแก่ลูกหนี้ การทำให้ได้ดุลระหว่างความจำเป็นสำหรับการได้รับสินเชื่อครั้งใหม่เพื่อรักษาหรือเพิ่มขึ้นซึ่งมูลค่าของทรัพย์สินกับผลกระทบและตันทุนที่จะเกิดขึ้นของการได้รับสินเชื่อใหม่ดังกล่าวต่อสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียเดิม และการทำให้ได้ดุลระหว่างบทบาทต่าง ๆ ที่ผู้มีส่วนได้เสียทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ดุลยพินิจของผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านกฎหมายกับขอบเขตที่เจ้าหนี้สามารถตรวจสอบการใช้ดุลยพินิจดังกล่าว
3. การหาจุดสมดุลระหว่างกระบวนการชำระบัญชีและการฟื้นฟูกิจการ (Striking a balance between liquidation and reorganization)
การรวบรวมทรัพย์สินของลูกหนี้ผ่านกระบวนการชำระบัญชีมักจะเป็นทางเลือกที่เจ้าหนี้มีประกันชอบ ในขณะที่การสงวนรักษามูลค่าธุรกิจของลูกหนี้ผ่านกระบวนการฟื้นฟูกิจการมักจะเป็นทางเลือกที่เจ้าหนี้ไม่มีประกันและลูกหนี้ชอบ การพยายามที่จะหาสมดุลระหว่างสองกระบวนการขึ้นอยู่กับข้อพิจารณาทางด้านสังคมอื่น ๆ ด้วย เช่น การส่งเสริมให้มีการพัฒนากลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ การปกป้องการจ้างงาน เป็นต้น กฎหมายล้มละลายควรมีส่วนกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้เพื่อเป็นทางเลือก นอกจากการชำระบัญชีซึ่งเจ้าหนี้จะต้องได้รับชำระหนี้ไม่น้อยกว่าลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการชำระบัญชีและมูลค่าของลูกหนี้ต่อสังคมและต่อเจ้าหนี้จะมีมูลค่าสูงสุดโดยการยอมให้ธุรกิจของลูกหนี้ดำเนินต่อไป หลักการนี้ตั้งอยู่บนทฤษฎีเศรษฐศาสตร์พื้นฐานว่าธุรกิจจะมีมูลค่ามากกว่า หากรักษาองค์ประกอบที่สำคัญของธุรกิจนั้นไว้ด้วยกัน มากกว่ากรณีที่แยกองค์ประกอบต่าง ๆ ดังกล่าวขายเป็นส่วน ๆ ไป เพื่อป้องกันการใช้กระบวนการล้มละลายในทางไม่ชอบ ไม่ว่าจะเกิดจากเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ กฎหมายล้มละลายควรมีบทบัญญัติในการเปลี่ยนแปลงประเภทของกระบวนพิจารณาจากการชำระบัญชีไปเป็นการฟื้นฟูกิจการ หรือการฟื้นฟูกิจการไปเป็นการชำระบัญชีที่เหมาะสมด้วย
4. การก่อให้เกิดความมั่นใจว่าเจ้าหนี้ที่มีสิทธิได้รับชำระหนี้ในลักษณะเดียวกันได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน (Ensuring equitable treatment of similarly situated creditors)
เจ้าหนี้ทุกรายไม่จำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติเหมือนกัน แต่จะต้องได้รับการปฏิบัติที่สะท้อนการต่อรองที่แตกต่างกันในเวลาที่มีการเข้าทำสัญญาระหว่างเจ้าหนี้รายนั้น ๆ กับลูกหนี้ เจ้าหนี้ที่มีลักษณะเหมือนกันหรือในทำนองเดียวกัน จะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเดียวกัน และกฎหมายล้มละลายควรมีมาตรการที่จะเพิกถอนการกระทำใด ๆ ที่ขัดต่อวัตถุประสงค์ข้อนี้ด้วย
5. การก่อให้เกิดกระบวนการล้มละลายที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเป็นกลาง (Provision for timely, efficient and impartial resolution of insolvency)
กฎหมายล้มละลายจะต้องหลีกเสี่ยงการก่อให้เกิดการชะงักงันต่อธุรกิจของลูกหนี้ และก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในกระบวนพิจารณาที่น้อยที่สุด กฎหมายจะต้องมุ่งเน้นการชำระบัญชีสำหรับธุรกิจที่ไม่มีประสิทธิภาพ และไม่มีช่องทางให้ฟื้นฟู และมุ่งเน้นการให้อยู่รอดต่อไปของธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ และมีแนวโน้มที่จะฟื้นฟูกิจการได้
กฎหมายล้มละลายจะต้องทำให้การเข้าสู่กระบวนการทำได้โดยง่าย มีเงื่อนไขที่ชัดเจน จะต้องมีวิธีการที่สะดวกในการระบุ รวบรวม รักษา และเรียกกลับคืนซึ่งทรัพย์สินและสิทธิของลูกหนี้ ช่วยอำนวยความสะดวกในการมีส่วนร่วมของลูกหนี้และเจ้าหนี้ โดยก่อให้เกิดการล่าข้าและค่าใช้จ่ายอย่างน้อยที่สุด มีโครงสร้างที่เหมาะสมสำหรับการกำกับและการบริหารจัดการกระบวนการ รวมทั้งผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านกฎหมายและองค์กรที่เกี่ยวข้อง และจัดให้มีกระบวนการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพสำหรับภาระหนี้และความรับผิดของลูกหนี้
6. การรักษากองทรัพย์สินของลูกหนี้ เพื่อให้เกิดการแบ่งทรัพย์สินแก่เจ้าหนี้ทั้งหลายอย่างเป็นธรรมตามสิทธิของเจ้าหนี้แต่ละประเภท (Preservation of the insolvency estate to allow equitable distribution to creditors)
กฎหมายล้มละลายจะต้องป้องกันมีให้เจ้าหนี้แต่ละรายสามารถบังคับชำระหนี้แก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ อันจะทำให้กองทรัพย์สินของลูกหนี้ลดลง อย่างไรก็ตาม กลไกดังกล่าวจะต้องระมัดระวังมิให้กระทบต่อสิทธิของเจ้าหนี้มีประกัน
7. การทำให้เกิดกฎหมายล้มละลายที่โปร่งใส และสามารถคาดการณ์ถึงขั้นตอนของกฎหมายและผลกระทบตามกฎหมาย และมีบทบัญญัติที่มีส่วนกระตุ้นในการรวมรวบและแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ (Ensuring a transparent and predictable insolvency law that contains incentives for gathering and dispensing information)
การก่อให้เกิดกฎหมายตามข้อนี้จะส่งเสริมความมีเสถียรภาพในนิติสัมพันธ์ทางพาณิชย์และส่งเสริมให้มีการให้สินเชื่อและการลงทุนโดยมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำลง
8. การรับรองสิทธิของเจ้าหนี้ที่มีอยู่เดิม และการมีบทบัญญัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับลำดับบุริมสิทธิของเจ้าหนี้ (Recognition of existing creditor rights and establishment of clear rules for ranking of priority claims)
กฎเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับลำดับบุริมสิทธิของเจ้าหนี้ที่มีอยู่เดิม ในขณะเริ่มต้นคดีและภายหลังการเริ่มต้นคดีจะทำให้เจ้าหนี้คาดการณ์ได้ ทำให้เกิดการปรับใช้กฎดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ ก่อความเชื่อมั่นในกระบวนพิจารณา และผู้มีส่วนได้เสียทุกรายสามารถเลือกมาตรการที่เหมาะสมในการบริหารความเสี่ยงของตนได้
9. การมีบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับการล้มละลายข้ามชาติ (Establish-ment of a framework for cross-border insolvency)
เพื่อส่งเสริมการประสานงานระหว่างเขตอำนาจศาลในประเทศต่าง ๆ กับการอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับความช่วยเหลือในการบริหารจัดการกระบวนพิจารณาคดีล้มละลาย ซึ่งมีที่มาจากต่างประเทศ กฎหมายล้มละลายควรจะมีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับกฎหมายล้มละลายข้ามชาติ ซึ่งจะมีเนื้อหาในเรื่องการรับรองกระบวนพิจารณาต่างประเทศด้วยโดยการยอมรับ the UNCITRAL Model Law on Cross-Border Insolvency เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายล้มละลายภายในประเทศ
ภาพประกอบจาก : https://www.lawsandconsult.com/th/
แผนกคดีล้มละลาย
มกราคม 2565