คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุด
คดีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๕๓๔ เมื่อศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งว่าคดีมีมูล จำเลยยื่นคำร้องอ้างว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและผิดระเบียบ ขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ว่าคดีมีมูล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าเป็นการอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๖ จึงไม่รับอุทธรณ์ จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยฎีกา เมื่อคดีนี้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยเท่ากับว่าศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย คำสั่งศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๘ ทวิ ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง มาตรา ๒๔๙๙ มาตรา ๔ จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกา (เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๘๐๑/๒๕๖๓)
ผู้เขียน นางสุรัชดา เตชะภาสรนันทน์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ผู้ตรวจ นางปรานี เชาวลิต ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
วันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๕