คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4486/2564 - พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 24 บัญญัติว่า "เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว ห้ามมิให้ลูกหนี้กระทำการใด ๆ เกี่ยวกับทรัพย์สินหรือกิจการของตน..." หมายความว่าบุคคลที่ถูกพิทักษ์ทรัพย์จะดำเนินคดีในทางแพ่งด้วยตนเองหรือก่อหนี้สินขึ้นอีกในระหว่างพิทักษ์ทรัพย์อยู่ไม่ได้เท่านั้น หามีผลทำให้หนี้ที่เกิดขึ้นก่อนถูกพิทักษ์ทรัพย์ต้องสิ้นสุดหรือระงับไปด้วยไม่ และมิได้คุ้มครองให้ผู้กระทำผิดอาญาพ้นผิดไปด้วย
จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ยอมรับว่าเป็นหนี้กู้ยืมเงินโจทก์ จำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คและส่งมอบเช็คดังกล่าวให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้อันเป็นหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย เมื่อเช็คถึงกำหนดเรียกเก็บเงิน โจทก์นำเช็คฝากเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคาร ก. เพื่อเรียกเก็บเงิน แต่บัญชีกระแสรายวันของจำเลยไม่ปรากฏยอดเงินเพียงพอชำระหนี้ตามเช็ค ต่อมาศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด ดังนี้ เมื่อหนี้ที่จำเลยออกเช็คจึงเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนที่จำเลยจะถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด แม้ธนาคารตามเช็คจะปฏิเสธการจ่ายเงินหลังจากศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจำเลยก็ตาม แต่การกระทำความผิดทางอาญาของจำเลยยังดำเนินต่อไปได้ โดยไม่ได้ทำให้จำเลยพ้นผิดแต่อย่างใด จำเลยจึงมีความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4