ครพ.ภษ. 7350/2563
ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2566/2560 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6034/2561 และคำสั่ง (คดีขออนุญาตฎีกา) ของศาลฎีกาที่ ครพ.ภษ. 2893/2562 ว่า สินค้าที่นำเข้าซึ่งสามารถทำหน้าที่ได้เพียง 3 ประการ คือ ถอนเงิน โอนเงิน และดูยอดเงินคงเหลือในบัญชี จัดเป็นเครื่องบริการเงินด่วนอัตโนมัติตามคำอธิบายพิกัดศุลกากรระบบฮาร์โมไนซ์ ประเภทย่อย 8472.90 (6) และได้รับยกเว้นอากรขาเข้าตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำหนดให้ของได้รับยกเว้นอากรและลดอัตราศุลกากร (ทส.3) เมื่อสินค้าพิพาทในส่วนที่ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษเพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์สามารถทำหน้าที่ได้ ๓ ประการ คือ ถอนเงิน โอนเงินและดูยอดเงินคงเหลือในบัญชี และศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษได้วินิจฉัยตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวซึ่งได้ให้เหตุผลไว้โดยละเอียดและชอบแล้วต่อเนื่องกันมาโดยตลอด และยังไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขแนวคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวได้ ส่วนคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1049/2551 ตามที่จำเลยอ้างนั้น เป็นการวินิจฉัยปัญหาพิกัดสำหรับเครื่องบริการฝากเงินอัตโนมัติ แตกต่างจากสินค้าพิพาทที่โจทก์นำเข้า ข้อเท็จจริงจึงแตกต่างจากคดีนี้ ฎีกาของจำเลย จึงไม่เป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคสอง (1) (5) และ (6) และข้อกำหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการขออนุญาตฎีกาในคดีแพ่ง พ.ศ. 2558 ข้อ 13 (1) ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 26
