ครพ.ภษ. 2900/2564
เมื่อเจ้าพนักงานของโจทก์ส่งหนังสือแจ้งการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มพิพาทโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับไปยังเลขที่ 201/587 หมู่ที่ 3 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของห้างหุ้นส่วนจำกัด ม. ตามที่ได้จดทะเบียนไว้กับสำนักทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และเป็นภูมิลำเนาของจำเลยซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด ม. เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2551 และตามใบตอบรับ ระบุว่าผู้ลงลายมือชื่อรับชื่อ ว. เกี่ยวพันกับผู้รับเป็นธิดา ซึ่งจำเลยตอบทนายโจทก์ถามค้านรับว่า จำเลยมีทะเบียนบ้านอยู่ที่บ้านเลขที่ 201/587 ปัจจุบันจำเลยยังอยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว จำเลยมีบุตรสองคน ยังอยู่บ้านเดียวกัน และยังได้ความจากสำเนารายการเกี่ยวกับบ้านอีกว่าเด็กหญิง ว. เกิดเมื่อปี 2530 แสดงว่าขณะรับหนังสือแจ้งการประเมินดังกล่าวผู้รับบรรลุนิติภาวะแล้ว ดังนั้น การส่งหนังสือแจ้งการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มจึงชอบตามประมวลรัษฎากร มาตรา 8 แล้ว
เมื่อเจ้าพนักงานประเมินเห็นว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ม. ไม่สามารถแสดงหลักฐานเกี่ยวกับภาษีซื้อในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มจึงประเมินภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ม. ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับเดือนภาษีมกราคม 2550 ถึงเดือนภาษีธันวาคม 2550 หากจำเลยไม่เห็นด้วยกับการประเมินก็ชอบที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์ เมื่อจำเลยไม่ใช้สิทธิอุทธรณ์การประเมินจึงเป็นผลให้การประเมินเป็นอันยุติ จำเลยไม่มีอำนาจยกข้อต่อสู้เรื่องการคำนวณหนี้ภาษีมูลค่าเพิ่มและการประเมินไม่ชอบด้วยกฎหมายขึ้นอ้างได้