ครพ.ภษ. 5282/2565
การจะจัดสินค้าพิพาทว่าอยู่ในประเภทพิกัดใดต้องใช้หลักเกณฑ์การตีความพิกัดอัตราศุลกากรในภาค ๑ ท้ายพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกอบกับคำอธิบายพิกัดศุลกากรระบบฮาร์โมไนซ์ ตามพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๓๐ มาตรา ๑๕ วรรคสาม ซึ่งบัญชีท้ายพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่ใช้บังคับขณะโจทก์นำเข้าสินค้ากำหนดประเภทพิกัด ๓๙.๐๓ คือ โพลิเมอร์ของสไตรีนในลักษณะขั้นปฐมประเภทย่อยในระดับ ๖ หลัก คือ ๓๙๐๓.๙๐ อื่น ๆ ซึ่งแยกเป็นประเภทย่อยในระดับ ๘ หลัก ได้แก่ ๓๙๐๓.๙๐.๙๑ โพลิสไตรีนชนิดไฮอิมแพค (เอชไอพีเอส) และ ๓๙๐๓.๙๐.๙๙ อื่น ๆ ซึ่งตามหมายเหตุประเภทย่อย บัญชีท้ายพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๕ ภาค ๒ พิกัดอัตราอากรขาเข้า หมวดที่ ๗ ตอนที่ ๓๙ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก หมายเหตุประเภทย่อย ๑ ระบุว่า ภายในประเภทใดประเภทหนึ่งของตอนนี้โพลิเมอร์ (รวมถึงโคโพลิเมอร์) และโพลิเมอร์ที่ดัดแปลงโครงสร้างทางเคมีให้จำแนกตามข้อกำหนดต่อไปนี้ (ก) ในกรณีที่มีประเภทย่อยในลำดับเดียวกันระบุว่า “อื่น ๆ” (๑) การระบุถึงโพลิเมอร์ในประเภทย่อยใดโดยใช้ “โพลิ” นำหน้า (เช่น โพลิเอทิลีน และโพลิอะไมด์ – ๖,๖) หมายถึง หน่วยโมโนเมอร์หน่วยหนึ่งหรือหลายหน่วยที่เป็นองค์ประกอบของโพลิเมอร์ที่ระบุถึงนั้น... ประกอบตามคำอธิบายเพิ่มเติมพิกัดศุลกากรฮาร์โมไนซ์อาเซียน บันทึกคำอธิบายเพิ่มเติม ฉบับปี ๒๕๕๕ ให้คำอธิบายพิกัดของโพลิสไตรีนชนิดไฮอิมแพค (เอชไอพีเอส) ว่าประกอบด้วย โพลิสไตรีนที่มีเนื้อยางหรือบิวทาไดอีนโคโพลิเมอร์ ดังนั้น โพลิสไตรีนชนิดไฮอิมแพค (เอชไอพีเอส) ตามพิกัด ๓๙๐๓.๙๐.๙๑ จึงประกอบด้วย Styrene-butadiene copolymer ซึ่งเป็นโคโพลิเมอร์ของสไตรีนที่มีบิวทาไดอีนเป็นส่วนประกอบ เพราะโพลิเมอร์ของสไตรีน ตามความในพิกัด ๓๙๐๓ รวมถึงเป็นโคโพลิเมอร์ของสไตรีนตั้งแต่แรก แม้คำอธิบายเพิ่มเติมพิกัดอัตราศุลกากรฮาร์โมไนซ์อาเซียนดังกล่าวจะไม่ใช่คำอธิบายพิกัดศุลกากรระบบฮาร์โมไนซ์ของคณะมนตรีความร่วมมือทางศุลกากร โดยพิกัดอัตราศุลกากรฮาร์โมไนซ์อาเซียนใช้เลขรหัส ๖ หลัก ส่วนบัญชีท้ายพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๕ ใช้เลขรหัส ๘ หลัก ซึ่งเป็นเลขรหัสที่ใช้ในกลุ่มประเทศอาเซียนโดยเป็นการเพิ่มเติมเลขรหัสหลักที่ ๗ และ ๘ และรายการสินค้าเพื่อกำหนดอัตราอากร โดยประเทศสมาชิกอาเซียนจัดทำคำอธิบายพิกัดศุลกากรฮาร์โมไนซ์อาเซียนในทำนองเดียวกับคำอธิบายพิกัดศุลกากรระบบฮาร์โมไนซ์ของคณะมนตรีความร่วมมือทางศุลกากร โดยถือเป็นส่วนเสริมหรือเพิ่มเติมประกอบคำอธิบายในระบบฮาร์โมไนซ์ในส่วนของพิกัดศุลกากรฮาร์โมไนซ์อาเซียน คำอธิบายเพิ่มเติมพิกัดศุลกากรฮาร์โมไนซ์อาเซียนจึงนำมาใช้ประกอบในการตีความพิกัดอัตราศุลกากรได้ เมื่อสินค้าที่โจทก์นำเข้าระหว่างวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ ถึงวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๙ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดสาธารณรัฐเกาหลี คือ High Impact Polystyrene Resin (HIPS RESIN) ที่มี Styrene-butadiene copolymer ซึ่งเป็นโคโพลิเมอร์ของสไตรีนที่มีบิวทาไดอีนเป็นส่วนประกอบ โดยโจทก์สำแดงในใบขนสินค้าขาเข้าและในคำอุทธรณ์ว่าเป็น HIPS RESIN ประกอบกับข้อมูลตามเอกสารแสดงคุณสมบัติสินค้าของบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายกับข้อมูลทางเทคนิคของสินค้าที่โจทก์นำเข้าระบุว่า เป็นสินค้า HIPS (High Impact Polystyrene) ซึ่งหมายถึง โพลิสไตรีนชนิดไฮอิมแพค (เอชไอพีเอส) สินค้าที่โจทก์นำเข้าจึงเป็นสินค้าประเภทพิกัด ๓๙๐๓.๙๐.๙๑ อันเป็นประเภทย่อยที่ระบุถึงลักษณะของของไว้โดยเฉพาะ ตามหลักเกณฑ์การตีความพิกัดอัตราศุลกากร ข้อ ๑ ข้อ ๓ (ก) และข้อ ๖ มิใช่พิกัด ๓๙๐๓.๙๐.๙๙ จึงไม่ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากรและลดอัตราอากรศุลกากรสำหรับเขตการค้าเสรีอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี (ฉบับที่ ๒) ลงวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๗ การประเมินของจำเลยชอบแล้ว ส่วนฎีกาข้ออื่นของโจทก์ไม่อาจมีผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ฎีกาของโจทก์จึงไม่เป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙ ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๒๖