ครพ.ภษ.๒๒๘๗/๒๕๖๗
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีมีปัญหาตามที่โจทก์ขออนุญาตฎีกาประการแรกว่า ป้ายพิพาทในแต่ละด้านมีลักษณะเป็นป้ายเดียวกันหรือไม่ เห็นว่า ป้ายพิพาทที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ ๑ แจ้งประเมินภาษีป้ายมี ๓ ลำดับ อยู่ในโครงป้ายเดียวกันแต่มี ๒ ด้าน คือ ด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อพิจารณาพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๗ วรรคสอง บัญญัติว่า “การคำนวณพื้นที่ภาษีป้าย ให้คำนวณตามบัญชีอัตราภาษีป้าย (๖) และ (๗) ท้ายพระราชบัญญัติ” ซึ่งบัญชีอัตราภาษีป้าย (๖) ท้ายพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ บัญญัติว่า “(๖) พื้นที่ของป้ายไม่ว่าจะมีรูปร่างหรือลักษณะอย่างไร ให้คำนวณดังนี้ (ก) ถ้าเป็นป้ายที่มีขอบเขตกำหนดได้ ให้เอาส่วนกว้างที่สุดคูณด้วยส่วนยาวที่สุดของขอบเขตป้ายเป็นตารางเซนติเมตร (ข) ถ้าเป็นป้ายที่ไม่มีขอบเขตกำหนดได้ ให้ถือว่าตัวอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่อยู่ริมสุดเป็นขอบเขตสำหรับกำหนดส่วนกว้างที่สุดและยาวที่สุด แล้วคำนวณตาม (ก)” ซึ่งป้ายพิพาทในแต่ละด้านจะถือเป็นป้ายเดียวกันหรือแบ่งออกได้เป็น ๓ ป้าย นั้น เมื่อพิจารณาภาพถ่ายป้ายพิพาทแล้ว เห็นว่า ป้ายในแต่ละด้านมีกรอบเหล็กและเส้นแบ่งสี่เหลี่ยม ๓ กรอบชิดติดกัน อยู่ในโครงป้ายเดียวกันทั้งหมด ซึ่งข้อความในแต่ละกรอบปรากฏส่วนบนสุดลำดับที่ ๑ มีอักษรไทยคำว่า เอสโซ่ อยู่มุมบนขวาสุด เหนืออักษรต่างประเทศที่อยู่ในวงรีคำว่า Esso ขนาดกว้าง ๒๖๙ เซนติเมตร ยาว ๓๒๔ เซนติเมตร มีพื้นที่ ๘๗,๑๕๖ ตารางเซนติเมตร กรอบต่ำลงมาลำดับที่ ๒ มีอักษรไทยคำว่า ไทเกอร์มาร์ท อยู่มุมบนขวาสุด เหนือรูปเสือและมีอักษรต่างประเทศคำว่า Welcome to Tiger Mart ขนาดกว้าง ๒๑๒ เซนติเมตร ยาว ๓๒๔ เซนติเมตร มีพื้นที่ ๖๘,๖๘๘ ตารางเซนติเมตร และกรอบต่ำลงมาลำดับที่ ๓ มีอักษรไทยคำว่าเอสโซ่ อยู่ด้านมุมบนขวาสุด เหนืออักษรต่างประเทศคำว่า FUEL TECHNOLOGY Synergy และมีเครื่องหมายรูปวงกลมเล็กสีขาวหลายวงรวมกันอยู่ด้านซ้ายอักษรต่างประเทศ ขนาดกว้าง ๑๑๘ เซนติเมตร ยาว ๓๒๔ เซนติเมตร มีพื้นที่ ๓๘,๒๓๒ ตารางเซนติเมตร รวมพื้นที่ทั้งสามลำดับ ๑๙๔,๐๗๖ ตารางเซนติเมตร จากข้อความทั้งหมดข้างต้นเห็นได้ว่า แม้ป้ายพิพาทในแต่ละด้านจะแบ่งกรอบแต่ละกรอบ แต่เครื่องหมายและข้อความในแต่ละกรอบไม่ได้เป็นอิสระต่อกัน โดยข้อความทั้งหมดมีความเกี่ยวพันกับชื่อ สัญลักษณ์ และคุณภาพสินค้าของโจทก์อันมีลักษณะเป็นการเชิญชวนให้เข้าใช้สินค้าและบริการเพื่อหารายได้ในสถานประกอบการของโจทก์ โดยการประกอบกิจการดังกล่าวก็ตรงตามวัตถุประสงค์ที่โจทก์ระบุในหนังสือรับรอง ส่วนที่โจทก์อ้างว่าโจทก์แบ่งโครงสร้างเป็นช่อง ๆ เพื่อความสะดวกในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการโฆษณาป้ายในแต่ละช่องใหม่ และในปี ๒๕๖๓ โจทก์ได้ปรับเปลี่ยนป้ายเฉพาะลำดับที่ ๓ โดยไม่ต้องรื้อหรือถอดป้ายในช่องอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่า การแบ่งระหว่างป้ายก็เพียงเพื่อความสะดวกในการปรับเปลี่ยนข้อความบางส่วนในป้ายเท่านั้น กรณีจึงฟังได้ว่าป้ายพิพาทในแต่ละด้านแสดงข้อความทั้งหมดเป็นชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่โจทก์ใช้ ในการประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นของโจทก์เพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่น เพื่อหารายได้โดยไม่อาจแยกจากกันได้ ตามพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๑๐ มาตรา ๖ และมาตรา ๗ วรรคสอง ป้ายพิพาทดังกล่าวในแต่ละด้านจึงมีลักษณะเป็นป้ายเดียวกันรวม ๒ ด้าน เป็น ๒ ป้าย
คดีมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ประการต่อไปว่า ป้ายพิพาทจัดเป็นประเภท (๒) หรือประเภท (๓) ของป้ายตามกฎกระทรวงกำหนดอัตราภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๒ เห็นว่า เมื่อวินิจฉัยแล้วว่าป้ายพิพาทในแต่ละด้านมีลักษณะเป็นป้ายเดียวกันรวม ๒ ด้าน เป็น ๒ ป้าย และข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่าป้ายพิพาทในแต่ละด้านมีอักษร ภาพ และเครื่องหมายดังนี้ คือ มีอักษรไทยคำว่า เอสโซ่ อยู่มุมบนขวาสุด ต่ำลงมามีอักษรต่างประเทศที่อยู่ในวงรีคำว่า Esso ต่ำลงมามีอักษรไทย คำว่า ไทเกอร์มาร์ท รูปเสือและมีอักษรต่างประเทศคำว่า Welcome to Tiger Mart ต่ำลงมามีอักษรไทยคำว่า เอสโซ่ และอักษรต่างประเทศคำว่า FUEL TECHNOLOGY Synergy และมีเครื่องหมายรูปวงกลมเล็กสีขาวหลายวงรวมกันอยู่ด้านซ้ายของอักษรต่างประเทศตามลำดับ ซึ่งเมื่อพิเคราะห์ตามภาพถ่ายป้ายพิพาทในแต่ละด้านแล้ว ปรากฏว่ามีอักษรไทยคำว่า ไทเกอร์มาร์ท อยู่ใต้หรือต่ำกว่าอักษรต่างประเทศคำว่า Esso จึงถือเป็นป้ายที่มีอักษรไทยบางส่วนอยู่ใต้หรือต่ำกว่าอักษรต่างประเทศ จัดเป็นป้ายประเภท (๓) (ข) ตามกฎกระทรวงกำหนดอัตราภาษีป้าย พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๒ (๓) (ข) ที่ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษพิพากษามานั้น ชอบแล้ว