เรื่อง เช่าซื้อ ค้ำประกัน (ฎีกา ๙๐๓/๒๕๖๒)

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา  ๖๘๖  วรรคสอง  บัญญัติว่า  “ในกรณีที่เจ้าหนี้มิได้มีหนังสือบอกกล่าวภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นจากความรับผิดในดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทน  ตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้รายนั้นบรรดาที่เกิดขึ้นภายหลังจากพ้นกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง”  ตามข้อเท็จจริงหลังจากที่จำเลยที่  ๑  ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อในงวดที่  ๓๓  ประจำวันที่  ๑๐  พฤศจิกายน  ๒๕๕๘  ซึ่งถือเป็นวันที่จำเลยที่  ๑  ลูกหนี้ผิดนัด  แต่โจทก์หาได้มีหนังสือบอกกล่าวไปยังจำเลยที่  ๒  และที่  ๓  ผู้ค้ำประกันไม่  โจทก์เพิ่งมีหนังสือขอให้ชำระหนี้และบอกเลิกสัญญาฉบับลงวันที่  ๖  กรกฎาคม  ๒๕๕๙  ส่งไปยังจำเลยทั้งสาม  อันถือได้ว่าเป็นวันที่โจทก์มีหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้ค้ำประกัน  เมื่อจำเลยที่  ๒  ได้รับหนังสือในวันที่  ๒๗  กรกฎาคม  ๒๕๕๙  และจำเลยที่  ๓  ได้รับหนังสือในวันที่  ๒๓  กรกฎาคม  ๒๕๕๙  จึงเกินกำหนด  ๖๐  วัน  นับแต่วันที่จำเลยที่  ๑  ผิดนัด  จึงมีผลให้จำเลยที่  ๒  และที่  ๓  ในฐานะผู้ค้ำประกันหลุดพ้นความรับผิดในดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทน  ตลอดจนค่าภาระติดพันอันเป็นอุปกรณ์แห่งหนี้  แต่หนี้การส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนหากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนหาใช่ค่าภาระติดพันอันเป็นหนี้อุปกรณ์ตามความหมายของมาตรา  ๖๘๖  วรรคสองไม่  จำเลยที่  ๒  และที่  ๓  ในฐานะผู้ค้ำประกันจึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่  ๑  ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนให้แก่โจทก์  หรือหากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทน 

(ฎีกา ๙๐๓/๒๕๖๒)  

เผยแพร่โดย

แผนกคดีผู้บริโภค

วันที่เผยแพร่
13/04/2563
เข้าดู
9
Share