ครพ.ภษ. 5538/2561
ที่ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษวินิจฉัยว่า โจทก์มีหน้าที่ตามสัญญาปฏิบัติตามข้อกำหนดในการจัดเก็บ ต้องมีกรรมกรแบกขนข้าวสาร มีหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้ความร่วมมือต่อองค์การคลังสินค้าในการที่องค์การคลังสินค้าหรือเจ้าหน้าที่ของทางราชการเข้าไปตรวจสอบหรือขนย้ายข้าวสารหรือทรัพย์สินอื่นของคลังสินค้า รวมทั้งมีหน้าที่รับผิดในกรณีที่ข้าวสารหรือกระสอบบรรจุข้าวซึ่งเก็บรักษาข้าวสารตามสัญญาหรือมีสภาพบกพร่องหรือชำรุดทรุดโทรม ทำให้เกิดการปนเปื้อนหรือมีความชื้นจากพื้นคลังสินค้า หรือมีสัตว์เข้าไปทำให้เกิดความเสียหายตลอดจนมีน้ำท่วม ฝนตกไหลนอง หรือสาดกระเซ็นเข้าไปในคลังสินค้า แสดงว่าโจทก์ไม่ได้ส่งมอบการครอบครองคลังสินค้าที่ให้เช่าแก่องค์การคลังสินค้าเพื่อใช้ประโยชน์และมีอิสระในการใช้คลังสินค้าเยี่ยงผู้เช่าทั่วไป โจทก์ยังคงเป็นผู้ครอบครองสินค้าที่ให้เช่าและมีหน้าที่ในการจัดเก็บรวมทั้งดูแลข้าวสารมิให้เสื่อมสภาพเสียหาย สัญญาระหว่างโจทก์กับองค์การคลังสินค้าจึงเป็นสัญญาฝากทรัพย์อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นไปตามแนวคำพิพากษาฎีกาที่ 13006/2558 คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษจึงชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์จึงไม่เป็นกรณีที่คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษได้วินิจฉัยข้อกฎหมายที่สำคัญซึ่งยังไม่มีแนวคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลฎีกามาก่อนและไม่เป็นการพัฒนาการตีความกฎหมาย อันไม่เป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคสอง (3) และ (5) ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528 มาตรา 26
ครพ.ภษ. 2788/2565
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ฎีกาของโจทก์ในประเด็นว่า สัญญาระหว่างโจทก์กับองค์การคลังสินค้าเป็นการให้บริการเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๘๑ (๑) (ต) หรือไม่ เห็นว่า สัญญาเช่าคลังสินค้าที่โจทก์ทำกับองค์การคลังสินค้ามีข้อกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ให้เหมาะสมกับการเก็บรักษาข้าวสาร การจัดเรียงกองข้าวต้องเป็นไปตามที่ระบุในสัญญา จัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่องค์การคลังสินค้าในการนำข้าวสารเข้าไปเก็บหรือออกจากคลังสินค้า ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อบันทึกภาพการเคลื่อนไหวของการขนย้ายข้าวสาร ให้โจทก์ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในกรณีข้าวสารหรือกระสอบบรรจุข้าวสารของผู้เช่าซึ่งเก็บอยู่ในสถานที่เช่าเสื่อมคุณภาพเสียหายเนื่องจากความชื้นจากพื้นสถานที่เช่าหรือสัตว์เข้าไปทำให้เกิดความเสียหายตลอดจนความเสียหายจากน้ำท่วม ฝนตกไหลนอง หรือสาดกระเซ็นเข้าไปในสถานที่เช่าโจทก์จึงมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาข้าวสารในคลังสินค้าให้ปลอดภัยตลอดเวลาที่ข้าวสารอยู่ในคลังสินค้า ข้อสัญญาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า โจทก์ไม่ได้ส่งมอบให้ผู้เช่าครอบครองและมีอิสระในการใช้คลังสินค้าเองเยี่ยงสิทธิของผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป แต่โจทก์ยังคงควบคุมดูแลและดำเนินการต่าง ๆ ภายในคลังสินค้าที่ให้เช่าอยู่ตลอดเวลาในแต่ละขั้นตอน ทั้งตามสัญญายังมีข้อตกลงคิดค่าเช่าคลังสินค้าโดยคำนวณค่าเช่าตามจำนวนข้าวสารที่นำเข้าเก็บจริงในคลังสินค้าในอัตรากระสอบละ ๒ บาท ต่อเดือน เห็นได้ว่าการใช้พื้นที่เดียวกันแต่ค่าตอบแทนการใช้อาจไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับปริมาณมากน้อยของข้าวสารที่นำมาเก็บจึงเป็นการกำหนดค่าบำเหน็จในการเก็บรักษาสินค้ามากกว่าเป็นค่าเช่าสถานที่ ข้อตกลงตามสัญญาดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นสัญญาฝากทรัพย์อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นไปตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๓๐๐๖/๒๕๕๘ และคำสั่งคดีขออนุญาตฎีกาที่ ครพ.ภษ. 11865/2563 ส่วนฎีกาข้ออื่นของโจทก์เมื่อพิจารณาแล้วไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ฎีกาของโจทก์จึงไม่เป็นปัญหาที่เกี่ยวพันกับประโยชน์สาธารณะ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน ไม่เป็นกรณีที่คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษได้วินิจฉัยข้อกฎหมายที่สำคัญขัดกันหรือขัดกับแนวบรรทัดฐานของคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลฎีกา ไม่เป็นกรณีที่คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษได้วินิจฉัยข้อกฎหมายที่สำคัญซึ่งยังไม่มีแนวคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลฎีกามาก่อน และไม่เป็นกรณีที่การวินิจฉัยของศาลฎีกาจะเป็นการพัฒนาการตีความกฎหมาย จึงไม่เป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๒๖ ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙ วรรคหนึ่ง วรรคสอง (๑) (๒) (๓) และ (๕)