คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2562 - คดีนี้ในส่วนฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอาคารที่เช่าเป็นการบังคับแก่จำเลยโดยตรง จึงมิใช่คดีเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยจึงไม่มีอำนาจดำเนินคดีแทนจำเลยในส่วนนี้ ส่วนคดีขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเสียหายเป็นคดีที่ต้องจ่ายทรัพย์สินจากกองทรัพย์สินของจำเลยหากจำเลยแพ้คดี จึงเป็นคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยมีอำนาจเข้าว่าคดีแทนจำเลยเฉพาะส่วนนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยแถลงไม่ยื่นฎีกาคดีส่วนนี้ จึงคงเหลือแต่คดีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากอาคารที่เช่าเท่านั้น ซึ่งจำเลยขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาและศาลชั้นต้นอนุญาตให้จำเลยยื่นฏีกาได้ภายในวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ที่จำเลยยื่นฎีกาเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 จึงเกินกำหนดระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นอนุญาต จำเลยไม่อาจยื่นฎีกาในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นขยายให้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยได้ เพราะการขยายระยะเวลาให้เจ้าหนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลย เป็นการขยายระยะเวลาในส่วนคดีเรียกค่าเสียหายที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยมีอำนาจดำเนินคดีแทนจำเลยตาม พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22 (3) และมาตรา 25 เท่านั้น เมื่อจำเลยยื่นฎีกาเกินกำหนดจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบ
อำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรณีจำเลยถูกฟ้องขับไล่ออกจากอาคารที่เช่า (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2562)
เผยแพร่โดย
นาย
วันที่เผยแพร่
18/03/2564
เข้าดู
65
Share
คำพิพากษาที่น่าสนใจล่าสุด
จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ
29/10/2568
พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯ : อำนาจฟ้อง
24/10/2568
ภาษีอากร : ประมวลรัษฎากร มาตรา 12
24/10/2568
จำเลยฎีกาในคดีอาญาและคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา
24/09/2568
โจทก์ร่วมยื่นคำร้องขอถอนฟ้องและขอถอนคำร้องทุกข์ จำเลยยื่นคำร้องขอถอนฎีกา
26/08/2568